ตัวประกอบของ 25233 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25233
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25233 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25233 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 25233 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25233 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25233 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 13, 39, 647, 1941, 8411, 25233
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 25233 ÷ 1 | = | 25233 | เหลือเศษ 0 |
| 25233 ÷ 3 | = | 8411 | เหลือเศษ 0 |
| 25233 ÷ 13 | = | 1941 | เหลือเศษ 0 |
| 25233 ÷ 39 | = | 647 | เหลือเศษ 0 |
| 25233 ÷ 647 | = | 39 | เหลือเศษ 0 |
| 25233 ÷ 1941 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
| 25233 ÷ 8411 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 25233 ÷ 25233 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25233
| 1 x 25233 | = | 25233 |
| 3 x 8411 | = | 25233 |
| 13 x 1941 | = | 25233 |
| 39 x 647 | = | 25233 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25233
1 + 3 + 13 + 39 + 647 + 1941 + 8411 + 25233 = 36288
▶ ตัวประกอบของ 25233 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 13, 647
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25233 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25233 = 3 x 13 x 647
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25233 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25233 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25233 มา 1 คู่ เช่น 3 x 8411
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25233
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25233 แบบที่หนึ่ง
- 25233
- 39
- 3
- 13
- 647
- 39
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25233 แบบที่สอง
- 25233
- 3
- 8411
- 13
- 647
ดังนั้น 25233 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25233 =
3 x 13 x 647
2. การแยกตัวประกอบของ 25233 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25233 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25233 นั้นก็คือ 3, 13, 647 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25233
3)2523313)8411647)6471ดังนั้น 25233 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25233 = 3 x 13 x 647วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25233
1แยกตัวประกอบของ 25233 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 131 x 64712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 647 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25233 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25233 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25233 นั้นก็คือ 3, 13, 647 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25233
3
)25233
13
)8411
647
)647
1
ดังนั้น 25233 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25233 = 3 x 13 x 647
1แยกตัวประกอบของ 25233 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 131 x 6471
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 647 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25233 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25233 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇