ตัวประกอบของ 23560 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 23560
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 23560 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 23560 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 23560 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 23560 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 23560 มีทั้งหมด 32 ตัวคือ 1, 2, 4, 5, 8, 10, 19, 20, 31, 38, 40, 62, 76, 95, 124, 152, 155, 190, 248, 310, 380, 589, 620, 760, 1178, 1240, 2356, 2945, 4712, 5890, 11780, 23560
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
23560 ÷ 1 | = | 23560 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 2 | = | 11780 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 4 | = | 5890 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 5 | = | 4712 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 8 | = | 2945 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 10 | = | 2356 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 19 | = | 1240 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 20 | = | 1178 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 31 | = | 760 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 38 | = | 620 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 40 | = | 589 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 62 | = | 380 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 76 | = | 310 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 95 | = | 248 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 124 | = | 190 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 152 | = | 155 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 155 | = | 152 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 190 | = | 124 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 248 | = | 95 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 310 | = | 76 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 380 | = | 62 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 589 | = | 40 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 620 | = | 38 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 760 | = | 31 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 1178 | = | 20 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 1240 | = | 19 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 2356 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 2945 | = | 8 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 4712 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 5890 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 11780 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
23560 ÷ 23560 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 23560
1 x 23560 | = | 23560 |
2 x 11780 | = | 23560 |
4 x 5890 | = | 23560 |
5 x 4712 | = | 23560 |
8 x 2945 | = | 23560 |
10 x 2356 | = | 23560 |
19 x 1240 | = | 23560 |
20 x 1178 | = | 23560 |
31 x 760 | = | 23560 |
38 x 620 | = | 23560 |
40 x 589 | = | 23560 |
62 x 380 | = | 23560 |
76 x 310 | = | 23560 |
95 x 248 | = | 23560 |
124 x 190 | = | 23560 |
152 x 155 | = | 23560 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 23560
1 + 2 + 4 + 5 + 8 + 10 + 19 + 20 + 31 + 38 + 40 + 62 + 76 + 95 + 124 + 152 + 155 + 190 + 248 + 310 + 380 + 589 + 620 + 760 + 1178 + 1240 + 2356 + 2945 + 4712 + 5890 + 11780 + 23560 = 57600
▶ ตัวประกอบของ 23560 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 5, 19, 31
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 23560 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23560 = 2 x 2 x 2 x 5 x 19 x 31
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 23560 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
23560 = 23 x 5 x 19 x 31
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 23560 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
23560 = 23 x 5 x 19 x 31
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 23560 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 23560 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 23560 มา 1 คู่ เช่น 2 x 11780
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23560
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 23560 แบบที่หนึ่ง
- 23560
- 152
- 8
- 2
- 4
- 2
- 2
- 19
- 8
- 155
- 5
- 31
- 152
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 23560 แบบที่สอง
- 23560
- 2
- 11780
- 2
- 5890
- 2
- 2945
- 5
- 589
- 19
- 31
ดังนั้น 23560 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23560 =
2 x 2 x 2 x 5 x 19 x 31
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
23560 =
23 x 5 x 19 x 31 หรือ 23 x 51 x 191 x 311
2. การแยกตัวประกอบของ 23560 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 23560 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 23560 นั้นก็คือ 2, 5, 19, 31 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23560
2)235602)117802)58905)294519)58931)311ดังนั้น 23560 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้23560 = 2 x 2 x 2 x 5 x 19 x 31หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง23560 = 23 x 5 x 19 x 31 หรือ 23 x 51 x 191 x 311วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 23560
1แยกตัวประกอบของ 23560 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 51 x 191 x 3112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 x 2 = 32✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 23560 มีทั้งหมด 32 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 23560 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 23560 นั้นก็คือ 2, 5, 19, 31 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23560
2
)23560
2
)11780
2
)5890
5
)2945
19
)589
31
)31
1
ดังนั้น 23560 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23560 = 2 x 2 x 2 x 5 x 19 x 31
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
23560 = 23 x 5 x 19 x 31 หรือ 23 x 51 x 191 x 311
1แยกตัวประกอบของ 23560 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 51 x 191 x 311
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 x 2 = 32✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 23560 มีทั้งหมด 32 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 23560 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇