โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 17484 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 17484

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 17484 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 17484 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 12, 31, 47, 62, 93, 94, 124, 141, 186, 188, 282, 372, 564, 1457, 2914, 4371, 5828, 8742, 17484
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
17484 ÷ 1=17484เหลือเศษ 0
17484 ÷ 2=8742เหลือเศษ 0
17484 ÷ 3=5828เหลือเศษ 0
17484 ÷ 4=4371เหลือเศษ 0
17484 ÷ 6=2914เหลือเศษ 0
17484 ÷ 12=1457เหลือเศษ 0
17484 ÷ 31=564เหลือเศษ 0
17484 ÷ 47=372เหลือเศษ 0
17484 ÷ 62=282เหลือเศษ 0
17484 ÷ 93=188เหลือเศษ 0
17484 ÷ 94=186เหลือเศษ 0
17484 ÷ 124=141เหลือเศษ 0
17484 ÷ 141=124เหลือเศษ 0
17484 ÷ 186=94เหลือเศษ 0
17484 ÷ 188=93เหลือเศษ 0
17484 ÷ 282=62เหลือเศษ 0
17484 ÷ 372=47เหลือเศษ 0
17484 ÷ 564=31เหลือเศษ 0
17484 ÷ 1457=12เหลือเศษ 0
17484 ÷ 2914=6เหลือเศษ 0
17484 ÷ 4371=4เหลือเศษ 0
17484 ÷ 5828=3เหลือเศษ 0
17484 ÷ 8742=2เหลือเศษ 0
17484 ÷ 17484=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 17484
1 x 17484
2 x 8742
3 x 5828
4 x 4371
6 x 2914
12 x 1457
31 x 564
47 x 372
62 x 282
93 x 188
94 x 186
124 x 141
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 17484
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 12 + 31 + 47 + 62 + 93 + 94 + 124 + 141 + 186 + 188 + 282 + 372 + 564 + 1457 + 2914 + 4371 + 5828 + 8742 + 17484 = 43008
ตัวประกอบของ 17484 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 31, 47
การแยกตัวประกอบคืออะไร

17484 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

17484 = 2 x 2 x 3 x 31 x 47
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 17484 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
17484 = 22 x 3 x 31 x 47
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 17484 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 17484 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 17484 มา 1 คู่ เช่น 2 x 8742
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 17484
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 17484 แบบที่หนึ่ง
  • 17484
    • 124
      • 4
        • 2
        • 2
      • 31
    • 141
      • 3
      • 47

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 17484 แบบที่สอง
  • 17484
    • 2
    • 8742
      • 2
      • 4371
        • 3
        • 1457
          • 31
          • 47
ดังนั้น 17484 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
17484 = 2 x 2 x 3 x 31 x 47
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
17484 = 22 x 3 x 31 x 47 หรือ 22 x 31 x 311 x 471

2. การแยกตัวประกอบของ 17484 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 17484 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 17484 นั้นก็คือ 2, 3, 31, 47 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 17484

2
)17484
2
)8742
3
)4371
31
)1457
47
)47
1
ดังนั้น 17484 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
17484 = 2 x 2 x 3 x 31 x 47
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
17484 = 22 x 3 x 31 x 47 หรือ 22 x 31 x 311 x 471

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 17484

1แยกตัวประกอบของ 17484 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 31 x 311 x 471
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 x 2 = 24
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 17484 มีทั้งหมด 24 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 17484 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇