โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 17487 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 17487

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 17487 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 17487 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 3, 9, 29, 67, 87, 201, 261, 603, 1943, 5829, 17487
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
17487 ÷ 1=17487เหลือเศษ 0
17487 ÷ 3=5829เหลือเศษ 0
17487 ÷ 9=1943เหลือเศษ 0
17487 ÷ 29=603เหลือเศษ 0
17487 ÷ 67=261เหลือเศษ 0
17487 ÷ 87=201เหลือเศษ 0
17487 ÷ 201=87เหลือเศษ 0
17487 ÷ 261=67เหลือเศษ 0
17487 ÷ 603=29เหลือเศษ 0
17487 ÷ 1943=9เหลือเศษ 0
17487 ÷ 5829=3เหลือเศษ 0
17487 ÷ 17487=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 17487
1 x 17487
3 x 5829
9 x 1943
29 x 603
67 x 261
87 x 201
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 17487
1 + 3 + 9 + 29 + 67 + 87 + 201 + 261 + 603 + 1943 + 5829 + 17487 = 26520
ตัวประกอบของ 17487 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 29, 67
การแยกตัวประกอบคืออะไร

17487 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

17487 = 3 x 3 x 29 x 67
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 17487 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
17487 = 32 x 29 x 67
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 17487 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 17487 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 17487 มา 1 คู่ เช่น 3 x 5829
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 17487
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 17487 แบบที่หนึ่ง
  • 17487
    • 87
      • 3
      • 29
    • 201
      • 3
      • 67

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 17487 แบบที่สอง
  • 17487
    • 3
    • 5829
      • 3
      • 1943
        • 29
        • 67
ดังนั้น 17487 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
17487 = 3 x 3 x 29 x 67
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
17487 = 32 x 29 x 67 หรือ 32 x 291 x 671

2. การแยกตัวประกอบของ 17487 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 17487 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 17487 นั้นก็คือ 3, 29, 67 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 17487

3
)17487
3
)5829
29
)1943
67
)67
1
ดังนั้น 17487 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
17487 = 3 x 3 x 29 x 67
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
17487 = 32 x 29 x 67 หรือ 32 x 291 x 671

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 17487

1แยกตัวประกอบของ 17487 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 291 x 671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 67 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 17487 มีทั้งหมด 12 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 17487 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇