ตัวประกอบของ 13547 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 13547
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 13547 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 13547 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 13547 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 13547 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 13547 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 19, 23, 31, 437, 589, 713, 13547
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
13547 ÷ 1 | = | 13547 | เหลือเศษ 0 |
13547 ÷ 19 | = | 713 | เหลือเศษ 0 |
13547 ÷ 23 | = | 589 | เหลือเศษ 0 |
13547 ÷ 31 | = | 437 | เหลือเศษ 0 |
13547 ÷ 437 | = | 31 | เหลือเศษ 0 |
13547 ÷ 589 | = | 23 | เหลือเศษ 0 |
13547 ÷ 713 | = | 19 | เหลือเศษ 0 |
13547 ÷ 13547 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 13547
1 x 13547 | = | 13547 |
19 x 713 | = | 13547 |
23 x 589 | = | 13547 |
31 x 437 | = | 13547 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 13547
1 + 19 + 23 + 31 + 437 + 589 + 713 + 13547 = 15360
▶ ตัวประกอบของ 13547 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
19, 23, 31
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 13547 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
13547 = 19 x 23 x 31
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 13547 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 13547 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 13547 มา 1 คู่ เช่น 19 x 713
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 13547
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 13547 แบบที่หนึ่ง
- 13547
- 31
- 437
- 19
- 23
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 13547 แบบที่สอง
- 13547
- 19
- 713
- 23
- 31
ดังนั้น 13547 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
13547 =
19 x 23 x 31
2. การแยกตัวประกอบของ 13547 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 13547 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 13547 นั้นก็คือ 19, 23, 31 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 13547
19)1354723)71331)311ดังนั้น 13547 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้13547 = 19 x 23 x 31วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 13547
1แยกตัวประกอบของ 13547 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 191 x 231 x 3112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 13547 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 13547 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 13547 นั้นก็คือ 19, 23, 31 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 13547
19
)13547
23
)713
31
)31
1
ดังนั้น 13547 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
13547 = 19 x 23 x 31
1แยกตัวประกอบของ 13547 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 191 x 231 x 311
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 13547 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 13547 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇