ตัวประกอบของ 11025 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 11025
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 11025 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 11025 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 11025 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 11025 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 11025 มีทั้งหมด 27 ตัวคือ 1, 3, 5, 7, 9, 15, 21, 25, 35, 45, 49, 63, 75, 105, 147, 175, 225, 245, 315, 441, 525, 735, 1225, 1575, 2205, 3675, 11025
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 11025 ÷ 1 | = | 11025 | เหลือเศษ 0 |
| 11025 ÷ 3 | = | 3675 | เหลือเศษ 0 |
| 11025 ÷ 5 | = | 2205 | เหลือเศษ 0 |
| 11025 ÷ 7 | = | 1575 | เหลือเศษ 0 |
| 11025 ÷ 9 | = | 1225 | เหลือเศษ 0 |
| 11025 ÷ 15 | = | 735 | เหลือเศษ 0 |
| 11025 ÷ 21 | = | 525 | เหลือเศษ 0 |
| 11025 ÷ 25 | = | 441 | เหลือเศษ 0 |
| 11025 ÷ 35 | = | 315 | เหลือเศษ 0 |
| 11025 ÷ 45 | = | 245 | เหลือเศษ 0 |
| 11025 ÷ 49 | = | 225 | เหลือเศษ 0 |
| 11025 ÷ 63 | = | 175 | เหลือเศษ 0 |
| 11025 ÷ 75 | = | 147 | เหลือเศษ 0 |
| 11025 ÷ 105 | = | 105 | เหลือเศษ 0 |
| 11025 ÷ 147 | = | 75 | เหลือเศษ 0 |
| 11025 ÷ 175 | = | 63 | เหลือเศษ 0 |
| 11025 ÷ 225 | = | 49 | เหลือเศษ 0 |
| 11025 ÷ 245 | = | 45 | เหลือเศษ 0 |
| 11025 ÷ 315 | = | 35 | เหลือเศษ 0 |
| 11025 ÷ 441 | = | 25 | เหลือเศษ 0 |
| 11025 ÷ 525 | = | 21 | เหลือเศษ 0 |
| 11025 ÷ 735 | = | 15 | เหลือเศษ 0 |
| 11025 ÷ 1225 | = | 9 | เหลือเศษ 0 |
| 11025 ÷ 1575 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
| 11025 ÷ 2205 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 11025 ÷ 3675 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 11025 ÷ 11025 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 11025
| 1 x 11025 | = | 11025 |
| 3 x 3675 | = | 11025 |
| 5 x 2205 | = | 11025 |
| 7 x 1575 | = | 11025 |
| 9 x 1225 | = | 11025 |
| 15 x 735 | = | 11025 |
| 21 x 525 | = | 11025 |
| 25 x 441 | = | 11025 |
| 35 x 315 | = | 11025 |
| 45 x 245 | = | 11025 |
| 49 x 225 | = | 11025 |
| 63 x 175 | = | 11025 |
| 75 x 147 | = | 11025 |
| 105 x 105 | = | 11025 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 11025
1 + 3 + 5 + 7 + 9 + 15 + 21 + 25 + 35 + 45 + 49 + 63 + 75 + 105 + 147 + 175 + 225 + 245 + 315 + 441 + 525 + 735 + 1225 + 1575 + 2205 + 3675 + 11025 = 22971
▶ ตัวประกอบของ 11025 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 5, 7
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 11025 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11025 = 3 x 3 x 5 x 5 x 7 x 7
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 11025 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
11025 = 32 x 52 x 72
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 11025 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
11025 = 32 x 52 x 72
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 11025 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 11025 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 11025 มา 1 คู่ เช่น 3 x 3675
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11025
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 11025 แบบที่หนึ่ง
- 11025
- 105
- 7
- 15
- 3
- 5
- 105
- 7
- 15
- 3
- 5
- 105
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 11025 แบบที่สอง
- 11025
- 3
- 3675
- 3
- 1225
- 5
- 245
- 5
- 49
- 7
- 7
ดังนั้น 11025 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11025 =
3 x 3 x 5 x 5 x 7 x 7
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
11025 =
32 x 52 x 72
2. การแยกตัวประกอบของ 11025 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 11025 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 11025 นั้นก็คือ 3, 5, 7 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11025
3)110253)36755)12255)2457)497)71ดังนั้น 11025 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้11025 = 3 x 3 x 5 x 5 x 7 x 7หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง11025 = 32 x 52 x 72วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 11025
1แยกตัวประกอบของ 11025 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 52 x 722ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 3 x 3 = 27✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 11025 มีทั้งหมด 27 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 11025 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 11025 นั้นก็คือ 3, 5, 7 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11025
3
)11025
3
)3675
5
)1225
5
)245
7
)49
7
)7
1
ดังนั้น 11025 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11025 = 3 x 3 x 5 x 5 x 7 x 7
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
11025 = 32 x 52 x 72
1แยกตัวประกอบของ 11025 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 52 x 72
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 3 x 3 = 27✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 11025 มีทั้งหมด 27 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 11025 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇