ตัวประกอบของ 10256 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 10256
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 10256 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 10256 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 10256 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 10256 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 10256 มีทั้งหมด 10 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 16, 641, 1282, 2564, 5128, 10256
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
10256 ÷ 1 | = | 10256 | เหลือเศษ 0 |
10256 ÷ 2 | = | 5128 | เหลือเศษ 0 |
10256 ÷ 4 | = | 2564 | เหลือเศษ 0 |
10256 ÷ 8 | = | 1282 | เหลือเศษ 0 |
10256 ÷ 16 | = | 641 | เหลือเศษ 0 |
10256 ÷ 641 | = | 16 | เหลือเศษ 0 |
10256 ÷ 1282 | = | 8 | เหลือเศษ 0 |
10256 ÷ 2564 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
10256 ÷ 5128 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
10256 ÷ 10256 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 10256
1 x 10256 | = | 10256 |
2 x 5128 | = | 10256 |
4 x 2564 | = | 10256 |
8 x 1282 | = | 10256 |
16 x 641 | = | 10256 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 10256
1 + 2 + 4 + 8 + 16 + 641 + 1282 + 2564 + 5128 + 10256 = 19902
▶ ตัวประกอบของ 10256 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 641
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 10256 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10256 = 2 x 2 x 2 x 2 x 641
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 10256 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
10256 = 24 x 641
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 10256 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
10256 = 24 x 641
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 10256 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 10256 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 10256 มา 1 คู่ เช่น 2 x 5128
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10256
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10256 แบบที่หนึ่ง
- 10256
- 16
- 4
- 2
- 2
- 4
- 2
- 2
- 4
- 641
- 16
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10256 แบบที่สอง
- 10256
- 2
- 5128
- 2
- 2564
- 2
- 1282
- 2
- 641
ดังนั้น 10256 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10256 =
2 x 2 x 2 x 2 x 641
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
10256 =
24 x 641 หรือ 24 x 6411
2. การแยกตัวประกอบของ 10256 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 10256 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 10256 นั้นก็คือ 2, 641 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10256
2)102562)51282)25642)1282641)6411ดังนั้น 10256 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้10256 = 2 x 2 x 2 x 2 x 641หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง10256 = 24 x 641 หรือ 24 x 6411วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 10256
1แยกตัวประกอบของ 10256 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 24 x 64112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 4 ให้เอา 4 + 1 = 5
- 👉 641 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 5 x 2 = 10✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 10256 มีทั้งหมด 10 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 10256 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 10256 นั้นก็คือ 2, 641 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10256
2
)10256
2
)5128
2
)2564
2
)1282
641
)641
1
ดังนั้น 10256 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10256 = 2 x 2 x 2 x 2 x 641
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
10256 = 24 x 641 หรือ 24 x 6411
1แยกตัวประกอบของ 10256 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 24 x 6411
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 4 ให้เอา 4 + 1 = 5
- 👉 641 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 5 x 2 = 10✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 10256 มีทั้งหมด 10 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 10256 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇