ตัวประกอบของ 96477 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 96477
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 96477 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 96477 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 96477 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 96477 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 96477 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 3, 32159, 96477
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 96477 ÷ 1 | = | 96477 | เหลือเศษ 0 |
| 96477 ÷ 3 | = | 32159 | เหลือเศษ 0 |
| 96477 ÷ 32159 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 96477 ÷ 96477 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 96477
| 1 x 96477 | = | 96477 |
| 3 x 32159 | = | 96477 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 96477
1 + 3 + 32159 + 96477 = 128640
▶ ตัวประกอบของ 96477 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 32159
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 96477 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
96477 = 3 x 32159
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 96477 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 96477 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 96477 มา 1 คู่ เช่น 3 x 32159
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 96477
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 96477
- 96477
- 3
- 32159
ดังนั้น 96477 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
96477 =
3 x 32159
2. การแยกตัวประกอบของ 96477 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 96477 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 96477 นั้นก็คือ 3, 32159 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 96477
3)9647732159)321591ดังนั้น 96477 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้96477 = 3 x 32159วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 96477
1แยกตัวประกอบของ 96477 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 3215912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 32159 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 96477 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 96477 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 96477 นั้นก็คือ 3, 32159 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 96477
3
)96477
32159
)32159
1
ดังนั้น 96477 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
96477 = 3 x 32159
1แยกตัวประกอบของ 96477 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 321591
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 32159 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 96477 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 96477 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇