ตัวประกอบของ 95687 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 95687
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 95687 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 95687 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 95687 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 95687 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 95687 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 103, 929, 95687
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 95687 ÷ 1 | = | 95687 | เหลือเศษ 0 |
| 95687 ÷ 103 | = | 929 | เหลือเศษ 0 |
| 95687 ÷ 929 | = | 103 | เหลือเศษ 0 |
| 95687 ÷ 95687 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 95687
| 1 x 95687 | = | 95687 |
| 103 x 929 | = | 95687 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 95687
1 + 103 + 929 + 95687 = 96720
▶ ตัวประกอบของ 95687 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
103, 929
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 95687 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
95687 = 103 x 929
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 95687 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 95687 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 95687 มา 1 คู่ เช่น 103 x 929
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 95687
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 95687
- 95687
- 103
- 929
ดังนั้น 95687 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
95687 =
103 x 929
2. การแยกตัวประกอบของ 95687 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 95687 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 95687 นั้นก็คือ 103, 929 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 95687
103)95687929)9291ดังนั้น 95687 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้95687 = 103 x 929วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 95687
1แยกตัวประกอบของ 95687 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 1031 x 92912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 103 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 929 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 95687 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 95687 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 95687 นั้นก็คือ 103, 929 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 95687
103
)95687
929
)929
1
ดังนั้น 95687 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
95687 = 103 x 929
1แยกตัวประกอบของ 95687 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 1031 x 9291
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 103 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 929 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 95687 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 95687 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
