ตัวประกอบของ 8642 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 8642
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 8642 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 8642 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 8642 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 8642 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 8642 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 29, 58, 149, 298, 4321, 8642
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 8642 ÷ 1 | = | 8642 | เหลือเศษ 0 |
| 8642 ÷ 2 | = | 4321 | เหลือเศษ 0 |
| 8642 ÷ 29 | = | 298 | เหลือเศษ 0 |
| 8642 ÷ 58 | = | 149 | เหลือเศษ 0 |
| 8642 ÷ 149 | = | 58 | เหลือเศษ 0 |
| 8642 ÷ 298 | = | 29 | เหลือเศษ 0 |
| 8642 ÷ 4321 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 8642 ÷ 8642 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 8642
| 1 x 8642 | = | 8642 |
| 2 x 4321 | = | 8642 |
| 29 x 298 | = | 8642 |
| 58 x 149 | = | 8642 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 8642
1 + 2 + 29 + 58 + 149 + 298 + 4321 + 8642 = 13500
▶ ตัวประกอบของ 8642 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 29, 149
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 8642 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8642 = 2 x 29 x 149
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 8642 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 8642 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 8642 มา 1 คู่ เช่น 2 x 4321
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8642
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8642 แบบที่หนึ่ง
- 8642
- 58
- 2
- 29
- 149
- 58
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8642 แบบที่สอง
- 8642
- 2
- 4321
- 29
- 149
ดังนั้น 8642 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8642 =
2 x 29 x 149
2. การแยกตัวประกอบของ 8642 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 8642 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8642 นั้นก็คือ 2, 29, 149 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8642
2)864229)4321149)1491ดังนั้น 8642 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้8642 = 2 x 29 x 149วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 8642
1แยกตัวประกอบของ 8642 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 291 x 14912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 149 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8642 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 8642 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8642 นั้นก็คือ 2, 29, 149 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8642
2
)8642
29
)4321
149
)149
1
ดังนั้น 8642 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8642 = 2 x 29 x 149
1แยกตัวประกอบของ 8642 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 291 x 1491
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 149 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8642 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 8642 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇