ตัวประกอบของ 7887 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 7887
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 7887 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 7887 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 7887 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 7887 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 7887 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 11, 33, 239, 717, 2629, 7887
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
7887 ÷ 1 | = | 7887 | เหลือเศษ 0 |
7887 ÷ 3 | = | 2629 | เหลือเศษ 0 |
7887 ÷ 11 | = | 717 | เหลือเศษ 0 |
7887 ÷ 33 | = | 239 | เหลือเศษ 0 |
7887 ÷ 239 | = | 33 | เหลือเศษ 0 |
7887 ÷ 717 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
7887 ÷ 2629 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
7887 ÷ 7887 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 7887
1 x 7887 | = | 7887 |
3 x 2629 | = | 7887 |
11 x 717 | = | 7887 |
33 x 239 | = | 7887 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 7887
1 + 3 + 11 + 33 + 239 + 717 + 2629 + 7887 = 11520
▶ ตัวประกอบของ 7887 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 11, 239
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 7887 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
7887 = 3 x 11 x 239
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 7887 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 7887 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 7887 มา 1 คู่ เช่น 3 x 2629
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 7887
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 7887 แบบที่หนึ่ง
- 7887
- 33
- 3
- 11
- 239
- 33
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 7887 แบบที่สอง
- 7887
- 3
- 2629
- 11
- 239
ดังนั้น 7887 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
7887 =
3 x 11 x 239
2. การแยกตัวประกอบของ 7887 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 7887 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 7887 นั้นก็คือ 3, 11, 239 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 7887
3)788711)2629239)2391ดังนั้น 7887 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้7887 = 3 x 11 x 239วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 7887
1แยกตัวประกอบของ 7887 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 111 x 23912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 239 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 7887 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 7887 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 7887 นั้นก็คือ 3, 11, 239 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 7887
3
)7887
11
)2629
239
)239
1
ดังนั้น 7887 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
7887 = 3 x 11 x 239
1แยกตัวประกอบของ 7887 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 111 x 2391
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 239 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 7887 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 7887 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇