ตัวประกอบของ 68556 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68556
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 68556 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 68556 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 68556 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 68556 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 68556 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 12, 29, 58, 87, 116, 174, 197, 348, 394, 591, 788, 1182, 2364, 5713, 11426, 17139, 22852, 34278, 68556
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68556 ÷ 1 | = | 68556 | เหลือเศษ 0 |
68556 ÷ 2 | = | 34278 | เหลือเศษ 0 |
68556 ÷ 3 | = | 22852 | เหลือเศษ 0 |
68556 ÷ 4 | = | 17139 | เหลือเศษ 0 |
68556 ÷ 6 | = | 11426 | เหลือเศษ 0 |
68556 ÷ 12 | = | 5713 | เหลือเศษ 0 |
68556 ÷ 29 | = | 2364 | เหลือเศษ 0 |
68556 ÷ 58 | = | 1182 | เหลือเศษ 0 |
68556 ÷ 87 | = | 788 | เหลือเศษ 0 |
68556 ÷ 116 | = | 591 | เหลือเศษ 0 |
68556 ÷ 174 | = | 394 | เหลือเศษ 0 |
68556 ÷ 197 | = | 348 | เหลือเศษ 0 |
68556 ÷ 348 | = | 197 | เหลือเศษ 0 |
68556 ÷ 394 | = | 174 | เหลือเศษ 0 |
68556 ÷ 591 | = | 116 | เหลือเศษ 0 |
68556 ÷ 788 | = | 87 | เหลือเศษ 0 |
68556 ÷ 1182 | = | 58 | เหลือเศษ 0 |
68556 ÷ 2364 | = | 29 | เหลือเศษ 0 |
68556 ÷ 5713 | = | 12 | เหลือเศษ 0 |
68556 ÷ 11426 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
68556 ÷ 17139 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
68556 ÷ 22852 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
68556 ÷ 34278 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
68556 ÷ 68556 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68556
1 x 68556 | = | 68556 |
2 x 34278 | = | 68556 |
3 x 22852 | = | 68556 |
4 x 17139 | = | 68556 |
6 x 11426 | = | 68556 |
12 x 5713 | = | 68556 |
29 x 2364 | = | 68556 |
58 x 1182 | = | 68556 |
87 x 788 | = | 68556 |
116 x 591 | = | 68556 |
174 x 394 | = | 68556 |
197 x 348 | = | 68556 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68556
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 12 + 29 + 58 + 87 + 116 + 174 + 197 + 348 + 394 + 591 + 788 + 1182 + 2364 + 5713 + 11426 + 17139 + 22852 + 34278 + 68556 = 166320
▶ ตัวประกอบของ 68556 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 29, 197
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 68556 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68556 = 2 x 2 x 3 x 29 x 197
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 68556 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
68556 = 22 x 3 x 29 x 197
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 68556 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
68556 = 22 x 3 x 29 x 197
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 68556 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68556 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68556 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34278
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68556
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68556 แบบที่หนึ่ง
- 68556
- 197
- 348
- 12
- 3
- 4
- 2
- 2
- 29
- 12
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68556 แบบที่สอง
- 68556
- 2
- 34278
- 2
- 17139
- 3
- 5713
- 29
- 197
ดังนั้น 68556 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68556 =
2 x 2 x 3 x 29 x 197
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68556 =
22 x 3 x 29 x 197 หรือ 22 x 31 x 291 x 1971
2. การแยกตัวประกอบของ 68556 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 68556 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68556 นั้นก็คือ 2, 3, 29, 197 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68556
2)685562)342783)1713929)5713197)1971ดังนั้น 68556 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้68556 = 2 x 2 x 3 x 29 x 197หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง68556 = 22 x 3 x 29 x 197 หรือ 22 x 31 x 291 x 1971วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68556
1แยกตัวประกอบของ 68556 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 31 x 291 x 19712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 197 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 x 2 = 24✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68556 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 68556 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68556 นั้นก็คือ 2, 3, 29, 197 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68556
2
)68556
2
)34278
3
)17139
29
)5713
197
)197
1
ดังนั้น 68556 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68556 = 2 x 2 x 3 x 29 x 197
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68556 = 22 x 3 x 29 x 197 หรือ 22 x 31 x 291 x 1971
1แยกตัวประกอบของ 68556 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 31 x 291 x 1971
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 197 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 x 2 = 24✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68556 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68556 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇