โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 68562 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68562

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 68562 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 68562 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 9, 13, 18, 26, 39, 78, 117, 234, 293, 586, 879, 1758, 2637, 3809, 5274, 7618, 11427, 22854, 34281, 68562
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68562 ÷ 1=68562เหลือเศษ 0
68562 ÷ 2=34281เหลือเศษ 0
68562 ÷ 3=22854เหลือเศษ 0
68562 ÷ 6=11427เหลือเศษ 0
68562 ÷ 9=7618เหลือเศษ 0
68562 ÷ 13=5274เหลือเศษ 0
68562 ÷ 18=3809เหลือเศษ 0
68562 ÷ 26=2637เหลือเศษ 0
68562 ÷ 39=1758เหลือเศษ 0
68562 ÷ 78=879เหลือเศษ 0
68562 ÷ 117=586เหลือเศษ 0
68562 ÷ 234=293เหลือเศษ 0
68562 ÷ 293=234เหลือเศษ 0
68562 ÷ 586=117เหลือเศษ 0
68562 ÷ 879=78เหลือเศษ 0
68562 ÷ 1758=39เหลือเศษ 0
68562 ÷ 2637=26เหลือเศษ 0
68562 ÷ 3809=18เหลือเศษ 0
68562 ÷ 5274=13เหลือเศษ 0
68562 ÷ 7618=9เหลือเศษ 0
68562 ÷ 11427=6เหลือเศษ 0
68562 ÷ 22854=3เหลือเศษ 0
68562 ÷ 34281=2เหลือเศษ 0
68562 ÷ 68562=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68562
1 x 68562
2 x 34281
3 x 22854
6 x 11427
9 x 7618
13 x 5274
18 x 3809
26 x 2637
39 x 1758
78 x 879
117 x 586
234 x 293
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68562
1 + 2 + 3 + 6 + 9 + 13 + 18 + 26 + 39 + 78 + 117 + 234 + 293 + 586 + 879 + 1758 + 2637 + 3809 + 5274 + 7618 + 11427 + 22854 + 34281 + 68562 = 160524
ตัวประกอบของ 68562 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 13, 293
การแยกตัวประกอบคืออะไร

68562 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

68562 = 2 x 3 x 3 x 13 x 293
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 68562 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
68562 = 2 x 32 x 13 x 293
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 68562 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68562 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68562 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34281
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68562
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68562 แบบที่หนึ่ง
  • 68562
    • 234
      • 13
      • 18
        • 3
        • 6
          • 2
          • 3
    • 293

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68562 แบบที่สอง
  • 68562
    • 2
    • 34281
      • 3
      • 11427
        • 3
        • 3809
          • 13
          • 293
ดังนั้น 68562 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68562 = 2 x 3 x 3 x 13 x 293
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68562 = 2 x 32 x 13 x 293 หรือ 21 x 32 x 131 x 2931

2. การแยกตัวประกอบของ 68562 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 68562 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68562 นั้นก็คือ 2, 3, 13, 293 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68562

2
)68562
3
)34281
3
)11427
13
)3809
293
)293
1
ดังนั้น 68562 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68562 = 2 x 3 x 3 x 13 x 293
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68562 = 2 x 32 x 13 x 293 หรือ 21 x 32 x 131 x 2931

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68562

1แยกตัวประกอบของ 68562 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 32 x 131 x 2931
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 293 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 x 2 = 24
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68562 มีทั้งหมด 24 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68562 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇