ตัวประกอบของ 68547 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68547
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 68547 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 68547 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 68547 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 68547 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 68547 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 73, 219, 313, 939, 22849, 68547
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68547 ÷ 1 | = | 68547 | เหลือเศษ 0 |
68547 ÷ 3 | = | 22849 | เหลือเศษ 0 |
68547 ÷ 73 | = | 939 | เหลือเศษ 0 |
68547 ÷ 219 | = | 313 | เหลือเศษ 0 |
68547 ÷ 313 | = | 219 | เหลือเศษ 0 |
68547 ÷ 939 | = | 73 | เหลือเศษ 0 |
68547 ÷ 22849 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
68547 ÷ 68547 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68547
1 x 68547 | = | 68547 |
3 x 22849 | = | 68547 |
73 x 939 | = | 68547 |
219 x 313 | = | 68547 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68547
1 + 3 + 73 + 219 + 313 + 939 + 22849 + 68547 = 92944
▶ ตัวประกอบของ 68547 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 73, 313
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 68547 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68547 = 3 x 73 x 313
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 68547 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68547 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68547 มา 1 คู่ เช่น 3 x 22849
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68547
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68547 แบบที่หนึ่ง
- 68547
- 219
- 3
- 73
- 313
- 219
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68547 แบบที่สอง
- 68547
- 3
- 22849
- 73
- 313
ดังนั้น 68547 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68547 =
3 x 73 x 313
2. การแยกตัวประกอบของ 68547 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 68547 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68547 นั้นก็คือ 3, 73, 313 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68547
3)6854773)22849313)3131ดังนั้น 68547 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้68547 = 3 x 73 x 313วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68547
1แยกตัวประกอบของ 68547 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 731 x 31312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 73 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 313 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68547 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 68547 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68547 นั้นก็คือ 3, 73, 313 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68547
3
)68547
73
)22849
313
)313
1
ดังนั้น 68547 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68547 = 3 x 73 x 313
1แยกตัวประกอบของ 68547 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 731 x 3131
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 73 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 313 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68547 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68547 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇