โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 68250 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68250

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 68250 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 68250 มีทั้งหมด 64 ตัวคือ 1, 2, 3, 5, 6, 7, 10, 13, 14, 15, 21, 25, 26, 30, 35, 39, 42, 50, 65, 70, 75, 78, 91, 105, 125, 130, 150, 175, 182, 195, 210, 250, 273, 325, 350, 375, 390, 455, 525, 546, 650, 750, 875, 910, 975, 1050, 1365, 1625, 1750, 1950, 2275, 2625, 2730, 3250, 4550, 4875, 5250, 6825, 9750, 11375, 13650, 22750, 34125, 68250
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68250 ÷ 1=68250เหลือเศษ 0
68250 ÷ 2=34125เหลือเศษ 0
68250 ÷ 3=22750เหลือเศษ 0
68250 ÷ 5=13650เหลือเศษ 0
68250 ÷ 6=11375เหลือเศษ 0
68250 ÷ 7=9750เหลือเศษ 0
68250 ÷ 10=6825เหลือเศษ 0
68250 ÷ 13=5250เหลือเศษ 0
68250 ÷ 14=4875เหลือเศษ 0
68250 ÷ 15=4550เหลือเศษ 0
68250 ÷ 21=3250เหลือเศษ 0
68250 ÷ 25=2730เหลือเศษ 0
68250 ÷ 26=2625เหลือเศษ 0
68250 ÷ 30=2275เหลือเศษ 0
68250 ÷ 35=1950เหลือเศษ 0
68250 ÷ 39=1750เหลือเศษ 0
68250 ÷ 42=1625เหลือเศษ 0
68250 ÷ 50=1365เหลือเศษ 0
68250 ÷ 65=1050เหลือเศษ 0
68250 ÷ 70=975เหลือเศษ 0
68250 ÷ 75=910เหลือเศษ 0
68250 ÷ 78=875เหลือเศษ 0
68250 ÷ 91=750เหลือเศษ 0
68250 ÷ 105=650เหลือเศษ 0
68250 ÷ 125=546เหลือเศษ 0
68250 ÷ 130=525เหลือเศษ 0
68250 ÷ 150=455เหลือเศษ 0
68250 ÷ 175=390เหลือเศษ 0
68250 ÷ 182=375เหลือเศษ 0
68250 ÷ 195=350เหลือเศษ 0
68250 ÷ 210=325เหลือเศษ 0
68250 ÷ 250=273เหลือเศษ 0
68250 ÷ 273=250เหลือเศษ 0
68250 ÷ 325=210เหลือเศษ 0
68250 ÷ 350=195เหลือเศษ 0
68250 ÷ 375=182เหลือเศษ 0
68250 ÷ 390=175เหลือเศษ 0
68250 ÷ 455=150เหลือเศษ 0
68250 ÷ 525=130เหลือเศษ 0
68250 ÷ 546=125เหลือเศษ 0
68250 ÷ 650=105เหลือเศษ 0
68250 ÷ 750=91เหลือเศษ 0
68250 ÷ 875=78เหลือเศษ 0
68250 ÷ 910=75เหลือเศษ 0
68250 ÷ 975=70เหลือเศษ 0
68250 ÷ 1050=65เหลือเศษ 0
68250 ÷ 1365=50เหลือเศษ 0
68250 ÷ 1625=42เหลือเศษ 0
68250 ÷ 1750=39เหลือเศษ 0
68250 ÷ 1950=35เหลือเศษ 0
68250 ÷ 2275=30เหลือเศษ 0
68250 ÷ 2625=26เหลือเศษ 0
68250 ÷ 2730=25เหลือเศษ 0
68250 ÷ 3250=21เหลือเศษ 0
68250 ÷ 4550=15เหลือเศษ 0
68250 ÷ 4875=14เหลือเศษ 0
68250 ÷ 5250=13เหลือเศษ 0
68250 ÷ 6825=10เหลือเศษ 0
68250 ÷ 9750=7เหลือเศษ 0
68250 ÷ 11375=6เหลือเศษ 0
68250 ÷ 13650=5เหลือเศษ 0
68250 ÷ 22750=3เหลือเศษ 0
68250 ÷ 34125=2เหลือเศษ 0
68250 ÷ 68250=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68250
1 x 68250
2 x 34125
3 x 22750
5 x 13650
6 x 11375
7 x 9750
10 x 6825
13 x 5250
14 x 4875
15 x 4550
21 x 3250
25 x 2730
26 x 2625
30 x 2275
35 x 1950
39 x 1750
42 x 1625
50 x 1365
65 x 1050
70 x 975
75 x 910
78 x 875
91 x 750
105 x 650
125 x 546
130 x 525
150 x 455
175 x 390
182 x 375
195 x 350
210 x 325
250 x 273
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68250
1 + 2 + 3 + 5 + 6 + 7 + 10 + 13 + 14 + 15 + 21 + 25 + 26 + 30 + 35 + 39 + 42 + 50 + 65 + 70 + 75 + 78 + 91 + 105 + 125 + 130 + 150 + 175 + 182 + 195 + 210 + 250 + 273 + 325 + 350 + 375 + 390 + 455 + 525 + 546 + 650 + 750 + 875 + 910 + 975 + 1050 + 1365 + 1625 + 1750 + 1950 + 2275 + 2625 + 2730 + 3250 + 4550 + 4875 + 5250 + 6825 + 9750 + 11375 + 13650 + 22750 + 34125 + 68250 = 209664
ตัวประกอบของ 68250 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 5 ตัวดังนี้
2, 3, 5, 7, 13
การแยกตัวประกอบคืออะไร

68250 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

68250 = 2 x 3 x 5 x 5 x 5 x 7 x 13
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 68250 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
68250 = 2 x 3 x 53 x 7 x 13
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 68250 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68250 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68250 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34125
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68250
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68250 แบบที่หนึ่ง
  • 68250
    • 250
      • 10
        • 2
        • 5
      • 25
        • 5
        • 5
    • 273
      • 13
      • 21
        • 3
        • 7

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68250 แบบที่สอง
  • 68250
    • 2
    • 34125
      • 3
      • 11375
        • 5
        • 2275
          • 5
          • 455
            • 5
            • 91
              • 7
              • 13
ดังนั้น 68250 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68250 = 2 x 3 x 5 x 5 x 5 x 7 x 13
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68250 = 2 x 3 x 53 x 7 x 13 หรือ 21 x 31 x 53 x 71 x 131

2. การแยกตัวประกอบของ 68250 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 68250 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68250 นั้นก็คือ 2, 3, 5, 7, 13 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68250

2
)68250
3
)34125
5
)11375
5
)2275
5
)455
7
)91
13
)13
1
ดังนั้น 68250 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68250 = 2 x 3 x 5 x 5 x 5 x 7 x 13
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68250 = 2 x 3 x 53 x 7 x 13 หรือ 21 x 31 x 53 x 71 x 131

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68250

1แยกตัวประกอบของ 68250 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 53 x 71 x 131
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 4 x 2 x 2 = 64
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68250 มีทั้งหมด 64 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68250 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇