โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 68075 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68075

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 68075 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 68075 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 5, 7, 25, 35, 175, 389, 1945, 2723, 9725, 13615, 68075
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68075 ÷ 1=68075เหลือเศษ 0
68075 ÷ 5=13615เหลือเศษ 0
68075 ÷ 7=9725เหลือเศษ 0
68075 ÷ 25=2723เหลือเศษ 0
68075 ÷ 35=1945เหลือเศษ 0
68075 ÷ 175=389เหลือเศษ 0
68075 ÷ 389=175เหลือเศษ 0
68075 ÷ 1945=35เหลือเศษ 0
68075 ÷ 2723=25เหลือเศษ 0
68075 ÷ 9725=7เหลือเศษ 0
68075 ÷ 13615=5เหลือเศษ 0
68075 ÷ 68075=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68075
1 x 68075
5 x 13615
7 x 9725
25 x 2723
35 x 1945
175 x 389
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68075
1 + 5 + 7 + 25 + 35 + 175 + 389 + 1945 + 2723 + 9725 + 13615 + 68075 = 96720
ตัวประกอบของ 68075 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
5, 7, 389
การแยกตัวประกอบคืออะไร

68075 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

68075 = 5 x 5 x 7 x 389
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 68075 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
68075 = 52 x 7 x 389
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 68075 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68075 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68075 มา 1 คู่ เช่น 5 x 13615
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68075
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68075 แบบที่หนึ่ง
  • 68075
    • 175
      • 7
      • 25
        • 5
        • 5
    • 389

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68075 แบบที่สอง
  • 68075
    • 5
    • 13615
      • 5
      • 2723
        • 7
        • 389
ดังนั้น 68075 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68075 = 5 x 5 x 7 x 389
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68075 = 52 x 7 x 389 หรือ 52 x 71 x 3891

2. การแยกตัวประกอบของ 68075 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 68075 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68075 นั้นก็คือ 5, 7, 389 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68075

5
)68075
5
)13615
7
)2723
389
)389
1
ดังนั้น 68075 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68075 = 5 x 5 x 7 x 389
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
68075 = 52 x 7 x 389 หรือ 52 x 71 x 3891

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68075

1แยกตัวประกอบของ 68075 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 52 x 71 x 3891
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 389 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68075 มีทั้งหมด 12 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68075 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇