ตัวประกอบของ 66156 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 66156
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 66156 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 66156 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 66156 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 66156 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 66156 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 12, 37, 74, 111, 148, 149, 222, 298, 444, 447, 596, 894, 1788, 5513, 11026, 16539, 22052, 33078, 66156
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
66156 ÷ 1 | = | 66156 | เหลือเศษ 0 |
66156 ÷ 2 | = | 33078 | เหลือเศษ 0 |
66156 ÷ 3 | = | 22052 | เหลือเศษ 0 |
66156 ÷ 4 | = | 16539 | เหลือเศษ 0 |
66156 ÷ 6 | = | 11026 | เหลือเศษ 0 |
66156 ÷ 12 | = | 5513 | เหลือเศษ 0 |
66156 ÷ 37 | = | 1788 | เหลือเศษ 0 |
66156 ÷ 74 | = | 894 | เหลือเศษ 0 |
66156 ÷ 111 | = | 596 | เหลือเศษ 0 |
66156 ÷ 148 | = | 447 | เหลือเศษ 0 |
66156 ÷ 149 | = | 444 | เหลือเศษ 0 |
66156 ÷ 222 | = | 298 | เหลือเศษ 0 |
66156 ÷ 298 | = | 222 | เหลือเศษ 0 |
66156 ÷ 444 | = | 149 | เหลือเศษ 0 |
66156 ÷ 447 | = | 148 | เหลือเศษ 0 |
66156 ÷ 596 | = | 111 | เหลือเศษ 0 |
66156 ÷ 894 | = | 74 | เหลือเศษ 0 |
66156 ÷ 1788 | = | 37 | เหลือเศษ 0 |
66156 ÷ 5513 | = | 12 | เหลือเศษ 0 |
66156 ÷ 11026 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
66156 ÷ 16539 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
66156 ÷ 22052 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
66156 ÷ 33078 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
66156 ÷ 66156 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 66156
1 x 66156 | = | 66156 |
2 x 33078 | = | 66156 |
3 x 22052 | = | 66156 |
4 x 16539 | = | 66156 |
6 x 11026 | = | 66156 |
12 x 5513 | = | 66156 |
37 x 1788 | = | 66156 |
74 x 894 | = | 66156 |
111 x 596 | = | 66156 |
148 x 447 | = | 66156 |
149 x 444 | = | 66156 |
222 x 298 | = | 66156 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 66156
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 12 + 37 + 74 + 111 + 148 + 149 + 222 + 298 + 444 + 447 + 596 + 894 + 1788 + 5513 + 11026 + 16539 + 22052 + 33078 + 66156 = 159600
▶ ตัวประกอบของ 66156 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 37, 149
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 66156 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
66156 = 2 x 2 x 3 x 37 x 149
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 66156 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
66156 = 22 x 3 x 37 x 149
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 66156 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
66156 = 22 x 3 x 37 x 149
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 66156 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 66156 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 66156 มา 1 คู่ เช่น 2 x 33078
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 66156
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 66156 แบบที่หนึ่ง
- 66156
- 222
- 6
- 2
- 3
- 37
- 6
- 298
- 2
- 149
- 222
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 66156 แบบที่สอง
- 66156
- 2
- 33078
- 2
- 16539
- 3
- 5513
- 37
- 149
ดังนั้น 66156 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
66156 =
2 x 2 x 3 x 37 x 149
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
66156 =
22 x 3 x 37 x 149 หรือ 22 x 31 x 371 x 1491
2. การแยกตัวประกอบของ 66156 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 66156 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 66156 นั้นก็คือ 2, 3, 37, 149 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 66156
2)661562)330783)1653937)5513149)1491ดังนั้น 66156 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้66156 = 2 x 2 x 3 x 37 x 149หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง66156 = 22 x 3 x 37 x 149 หรือ 22 x 31 x 371 x 1491วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 66156
1แยกตัวประกอบของ 66156 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 31 x 371 x 14912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 149 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 x 2 = 24✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 66156 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 66156 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 66156 นั้นก็คือ 2, 3, 37, 149 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 66156
2
)66156
2
)33078
3
)16539
37
)5513
149
)149
1
ดังนั้น 66156 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
66156 = 2 x 2 x 3 x 37 x 149
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
66156 = 22 x 3 x 37 x 149 หรือ 22 x 31 x 371 x 1491
1แยกตัวประกอบของ 66156 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 31 x 371 x 1491
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 149 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 x 2 = 24✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 66156 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 66156 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇