โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 65656 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65656

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 65656 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 65656 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 29, 58, 116, 232, 283, 566, 1132, 2264, 8207, 16414, 32828, 65656
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65656 ÷ 1=65656เหลือเศษ 0
65656 ÷ 2=32828เหลือเศษ 0
65656 ÷ 4=16414เหลือเศษ 0
65656 ÷ 8=8207เหลือเศษ 0
65656 ÷ 29=2264เหลือเศษ 0
65656 ÷ 58=1132เหลือเศษ 0
65656 ÷ 116=566เหลือเศษ 0
65656 ÷ 232=283เหลือเศษ 0
65656 ÷ 283=232เหลือเศษ 0
65656 ÷ 566=116เหลือเศษ 0
65656 ÷ 1132=58เหลือเศษ 0
65656 ÷ 2264=29เหลือเศษ 0
65656 ÷ 8207=8เหลือเศษ 0
65656 ÷ 16414=4เหลือเศษ 0
65656 ÷ 32828=2เหลือเศษ 0
65656 ÷ 65656=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65656
1 x 65656
2 x 32828
4 x 16414
8 x 8207
29 x 2264
58 x 1132
116 x 566
232 x 283
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65656
1 + 2 + 4 + 8 + 29 + 58 + 116 + 232 + 283 + 566 + 1132 + 2264 + 8207 + 16414 + 32828 + 65656 = 127800
ตัวประกอบของ 65656 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 29, 283
การแยกตัวประกอบคืออะไร

65656 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

65656 = 2 x 2 x 2 x 29 x 283
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65656 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65656 = 23 x 29 x 283
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 65656 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65656 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65656 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32828
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65656
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65656 แบบที่หนึ่ง
  • 65656
    • 232
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
      • 29
    • 283

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65656 แบบที่สอง
  • 65656
    • 2
    • 32828
      • 2
      • 16414
        • 2
        • 8207
          • 29
          • 283
ดังนั้น 65656 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65656 = 2 x 2 x 2 x 29 x 283
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65656 = 23 x 29 x 283 หรือ 23 x 291 x 2831

2. การแยกตัวประกอบของ 65656 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 65656 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65656 นั้นก็คือ 2, 29, 283 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65656

2
)65656
2
)32828
2
)16414
29
)8207
283
)283
1
ดังนั้น 65656 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65656 = 2 x 2 x 2 x 29 x 283
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65656 = 23 x 29 x 283 หรือ 23 x 291 x 2831

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65656

1แยกตัวประกอบของ 65656 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 291 x 2831
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 283 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65656 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65656 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇