ตัวประกอบของ 65507 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65507
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65507 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65507 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 65507 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65507 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65507 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 13, 5039, 65507
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65507 ÷ 1 | = | 65507 | เหลือเศษ 0 |
65507 ÷ 13 | = | 5039 | เหลือเศษ 0 |
65507 ÷ 5039 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
65507 ÷ 65507 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65507
1 x 65507 | = | 65507 |
13 x 5039 | = | 65507 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65507
1 + 13 + 5039 + 65507 = 70560
▶ ตัวประกอบของ 65507 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
13, 5039
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65507 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65507 = 13 x 5039
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65507 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65507 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65507 มา 1 คู่ เช่น 13 x 5039
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65507
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65507
- 65507
- 13
- 5039
ดังนั้น 65507 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65507 =
13 x 5039
2. การแยกตัวประกอบของ 65507 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65507 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65507 นั้นก็คือ 13, 5039 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65507
13)655075039)50391ดังนั้น 65507 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65507 = 13 x 5039วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65507
1แยกตัวประกอบของ 65507 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 131 x 503912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5039 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65507 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65507 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65507 นั้นก็คือ 13, 5039 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65507
13
)65507
5039
)5039
1
ดังนั้น 65507 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65507 = 13 x 5039
1แยกตัวประกอบของ 65507 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 131 x 50391
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5039 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65507 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65507 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇