ตัวประกอบของ 65146 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65146
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65146 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65146 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 65146 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65146 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65146 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 2, 32573, 65146
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65146 ÷ 1 | = | 65146 | เหลือเศษ 0 |
65146 ÷ 2 | = | 32573 | เหลือเศษ 0 |
65146 ÷ 32573 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
65146 ÷ 65146 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65146
1 x 65146 | = | 65146 |
2 x 32573 | = | 65146 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65146
1 + 2 + 32573 + 65146 = 97722
▶ ตัวประกอบของ 65146 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 32573
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65146 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65146 = 2 x 32573
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65146 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65146 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65146 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32573
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65146
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65146
- 65146
- 2
- 32573
ดังนั้น 65146 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65146 =
2 x 32573
2. การแยกตัวประกอบของ 65146 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65146 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65146 นั้นก็คือ 2, 32573 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65146
2)6514632573)325731ดังนั้น 65146 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65146 = 2 x 32573วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65146
1แยกตัวประกอบของ 65146 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 3257312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 32573 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65146 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65146 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65146 นั้นก็คือ 2, 32573 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65146
2
)65146
32573
)32573
1
ดังนั้น 65146 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65146 = 2 x 32573
1แยกตัวประกอบของ 65146 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 325731
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 32573 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65146 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65146 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇