โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 65112 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65112

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 65112 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 65112 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 8, 12, 24, 2713, 5426, 8139, 10852, 16278, 21704, 32556, 65112
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65112 ÷ 1=65112เหลือเศษ 0
65112 ÷ 2=32556เหลือเศษ 0
65112 ÷ 3=21704เหลือเศษ 0
65112 ÷ 4=16278เหลือเศษ 0
65112 ÷ 6=10852เหลือเศษ 0
65112 ÷ 8=8139เหลือเศษ 0
65112 ÷ 12=5426เหลือเศษ 0
65112 ÷ 24=2713เหลือเศษ 0
65112 ÷ 2713=24เหลือเศษ 0
65112 ÷ 5426=12เหลือเศษ 0
65112 ÷ 8139=8เหลือเศษ 0
65112 ÷ 10852=6เหลือเศษ 0
65112 ÷ 16278=4เหลือเศษ 0
65112 ÷ 21704=3เหลือเศษ 0
65112 ÷ 32556=2เหลือเศษ 0
65112 ÷ 65112=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65112
1 x 65112
2 x 32556
3 x 21704
4 x 16278
6 x 10852
8 x 8139
12 x 5426
24 x 2713
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65112
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 8 + 12 + 24 + 2713 + 5426 + 8139 + 10852 + 16278 + 21704 + 32556 + 65112 = 162840
ตัวประกอบของ 65112 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 2713
การแยกตัวประกอบคืออะไร

65112 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

65112 = 2 x 2 x 2 x 3 x 2713
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65112 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65112 = 23 x 3 x 2713
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 65112 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65112 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65112 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32556
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65112
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65112 แบบที่หนึ่ง
  • 65112
    • 24
      • 4
        • 2
        • 2
      • 6
        • 2
        • 3
    • 2713

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65112 แบบที่สอง
  • 65112
    • 2
    • 32556
      • 2
      • 16278
        • 2
        • 8139
          • 3
          • 2713
ดังนั้น 65112 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65112 = 2 x 2 x 2 x 3 x 2713
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65112 = 23 x 3 x 2713 หรือ 23 x 31 x 27131

2. การแยกตัวประกอบของ 65112 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 65112 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65112 นั้นก็คือ 2, 3, 2713 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65112

2
)65112
2
)32556
2
)16278
3
)8139
2713
)2713
1
ดังนั้น 65112 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65112 = 2 x 2 x 2 x 3 x 2713
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65112 = 23 x 3 x 2713 หรือ 23 x 31 x 27131

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65112

1แยกตัวประกอบของ 65112 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 31 x 27131
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 2713 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65112 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65112 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇