ตัวประกอบของ 4618 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 4618
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 4618 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 4618 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 4618 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 4618 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 4618 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 2, 2309, 4618
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 4618 ÷ 1 | = | 4618 | เหลือเศษ 0 |
| 4618 ÷ 2 | = | 2309 | เหลือเศษ 0 |
| 4618 ÷ 2309 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 4618 ÷ 4618 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 4618
| 1 x 4618 | = | 4618 |
| 2 x 2309 | = | 4618 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 4618
1 + 2 + 2309 + 4618 = 6930
▶ ตัวประกอบของ 4618 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 2309
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 4618 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4618 = 2 x 2309
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 4618 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 4618 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 4618 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2309
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4618
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4618
- 4618
- 2
- 2309
ดังนั้น 4618 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4618 =
2 x 2309
2. การแยกตัวประกอบของ 4618 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 4618 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4618 นั้นก็คือ 2, 2309 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4618
2)46182309)23091ดังนั้น 4618 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้4618 = 2 x 2309วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 4618
1แยกตัวประกอบของ 4618 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 230912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2309 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4618 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 4618 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4618 นั้นก็คือ 2, 2309 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4618
2
)4618
2309
)2309
1
ดังนั้น 4618 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4618 = 2 x 2309
1แยกตัวประกอบของ 4618 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 23091
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2309 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4618 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 4618 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇