โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 35007 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 35007

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 35007 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 35007 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 7, 21, 1667, 5001, 11669, 35007
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
35007 ÷ 1=35007เหลือเศษ 0
35007 ÷ 3=11669เหลือเศษ 0
35007 ÷ 7=5001เหลือเศษ 0
35007 ÷ 21=1667เหลือเศษ 0
35007 ÷ 1667=21เหลือเศษ 0
35007 ÷ 5001=7เหลือเศษ 0
35007 ÷ 11669=3เหลือเศษ 0
35007 ÷ 35007=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 35007
1 x 35007
3 x 11669
7 x 5001
21 x 1667
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 35007
1 + 3 + 7 + 21 + 1667 + 5001 + 11669 + 35007 = 53376
ตัวประกอบของ 35007 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 7, 1667
การแยกตัวประกอบคืออะไร

35007 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

35007 = 3 x 7 x 1667
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 35007 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 35007 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 35007 มา 1 คู่ เช่น 3 x 11669
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 35007
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 35007 แบบที่หนึ่ง
  • 35007
    • 21
      • 3
      • 7
    • 1667

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 35007 แบบที่สอง
  • 35007
    • 3
    • 11669
      • 7
      • 1667
ดังนั้น 35007 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
35007 = 3 x 7 x 1667

2. การแยกตัวประกอบของ 35007 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 35007 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 35007 นั้นก็คือ 3, 7, 1667 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 35007

3
)35007
7
)11669
1667
)1667
1
ดังนั้น 35007 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
35007 = 3 x 7 x 1667

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 35007

1แยกตัวประกอบของ 35007 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 71 x 16671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 1667 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 35007 มีทั้งหมด 8 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 35007 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇