ตัวประกอบของ 26054 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26054
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26054 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26054 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 26054 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26054 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26054 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 7, 14, 1861, 3722, 13027, 26054
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26054 ÷ 1 | = | 26054 | เหลือเศษ 0 |
| 26054 ÷ 2 | = | 13027 | เหลือเศษ 0 |
| 26054 ÷ 7 | = | 3722 | เหลือเศษ 0 |
| 26054 ÷ 14 | = | 1861 | เหลือเศษ 0 |
| 26054 ÷ 1861 | = | 14 | เหลือเศษ 0 |
| 26054 ÷ 3722 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
| 26054 ÷ 13027 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 26054 ÷ 26054 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26054
| 1 x 26054 | = | 26054 |
| 2 x 13027 | = | 26054 |
| 7 x 3722 | = | 26054 |
| 14 x 1861 | = | 26054 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26054
1 + 2 + 7 + 14 + 1861 + 3722 + 13027 + 26054 = 44688
▶ ตัวประกอบของ 26054 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 1861
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26054 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26054 = 2 x 7 x 1861
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26054 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26054 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26054 มา 1 คู่ เช่น 2 x 13027
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26054
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26054 แบบที่หนึ่ง
- 26054
- 14
- 2
- 7
- 1861
- 14
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26054 แบบที่สอง
- 26054
- 2
- 13027
- 7
- 1861
ดังนั้น 26054 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26054 =
2 x 7 x 1861
2. การแยกตัวประกอบของ 26054 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26054 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26054 นั้นก็คือ 2, 7, 1861 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26054
2)260547)130271861)18611ดังนั้น 26054 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26054 = 2 x 7 x 1861วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26054
1แยกตัวประกอบของ 26054 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 186112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1861 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26054 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26054 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26054 นั้นก็คือ 2, 7, 1861 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26054
2
)26054
7
)13027
1861
)1861
1
ดังนั้น 26054 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26054 = 2 x 7 x 1861
1แยกตัวประกอบของ 26054 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 18611
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1861 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26054 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26054 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
