ตัวประกอบของ 26027 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26027
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26027 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26027 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 26027 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26027 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26027 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 17, 1531, 26027
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26027 ÷ 1 | = | 26027 | เหลือเศษ 0 |
| 26027 ÷ 17 | = | 1531 | เหลือเศษ 0 |
| 26027 ÷ 1531 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
| 26027 ÷ 26027 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26027
| 1 x 26027 | = | 26027 |
| 17 x 1531 | = | 26027 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26027
1 + 17 + 1531 + 26027 = 27576
▶ ตัวประกอบของ 26027 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
17, 1531
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26027 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26027 = 17 x 1531
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26027 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26027 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26027 มา 1 คู่ เช่น 17 x 1531
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26027
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26027
- 26027
- 17
- 1531
ดังนั้น 26027 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26027 =
17 x 1531
2. การแยกตัวประกอบของ 26027 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26027 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26027 นั้นก็คือ 17, 1531 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26027
17)260271531)15311ดังนั้น 26027 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26027 = 17 x 1531วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26027
1แยกตัวประกอบของ 26027 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 171 x 153112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1531 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26027 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26027 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26027 นั้นก็คือ 17, 1531 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26027
17
)26027
1531
)1531
1
ดังนั้น 26027 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26027 = 17 x 1531
1แยกตัวประกอบของ 26027 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 171 x 15311
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1531 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26027 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26027 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇