ตัวประกอบของ 26012 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26012
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26012 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26012 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 26012 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26012 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26012 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 4, 7, 14, 28, 929, 1858, 3716, 6503, 13006, 26012
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26012 ÷ 1 | = | 26012 | เหลือเศษ 0 |
| 26012 ÷ 2 | = | 13006 | เหลือเศษ 0 |
| 26012 ÷ 4 | = | 6503 | เหลือเศษ 0 |
| 26012 ÷ 7 | = | 3716 | เหลือเศษ 0 |
| 26012 ÷ 14 | = | 1858 | เหลือเศษ 0 |
| 26012 ÷ 28 | = | 929 | เหลือเศษ 0 |
| 26012 ÷ 929 | = | 28 | เหลือเศษ 0 |
| 26012 ÷ 1858 | = | 14 | เหลือเศษ 0 |
| 26012 ÷ 3716 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
| 26012 ÷ 6503 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
| 26012 ÷ 13006 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 26012 ÷ 26012 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26012
| 1 x 26012 | = | 26012 |
| 2 x 13006 | = | 26012 |
| 4 x 6503 | = | 26012 |
| 7 x 3716 | = | 26012 |
| 14 x 1858 | = | 26012 |
| 28 x 929 | = | 26012 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26012
1 + 2 + 4 + 7 + 14 + 28 + 929 + 1858 + 3716 + 6503 + 13006 + 26012 = 52080
▶ ตัวประกอบของ 26012 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 929
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26012 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26012 = 2 x 2 x 7 x 929
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26012 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26012 = 22 x 7 x 929
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26012 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26012 = 22 x 7 x 929
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26012 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26012 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26012 มา 1 คู่ เช่น 2 x 13006
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26012
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26012 แบบที่หนึ่ง
- 26012
- 28
- 4
- 2
- 2
- 7
- 4
- 929
- 28
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26012 แบบที่สอง
- 26012
- 2
- 13006
- 2
- 6503
- 7
- 929
ดังนั้น 26012 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26012 =
2 x 2 x 7 x 929
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26012 =
22 x 7 x 929 หรือ 22 x 71 x 9291
2. การแยกตัวประกอบของ 26012 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26012 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26012 นั้นก็คือ 2, 7, 929 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26012
2)260122)130067)6503929)9291ดังนั้น 26012 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26012 = 2 x 2 x 7 x 929หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง26012 = 22 x 7 x 929 หรือ 22 x 71 x 9291วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26012
1แยกตัวประกอบของ 26012 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 71 x 92912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 929 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26012 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26012 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26012 นั้นก็คือ 2, 7, 929 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26012
2
)26012
2
)13006
7
)6503
929
)929
1
ดังนั้น 26012 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26012 = 2 x 2 x 7 x 929
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26012 = 22 x 7 x 929 หรือ 22 x 71 x 9291
1แยกตัวประกอบของ 26012 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 71 x 9291
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 929 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26012 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26012 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
