ตัวประกอบของ 26007 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26007
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26007 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26007 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 26007 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26007 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26007 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 3, 8669, 26007
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26007 ÷ 1 | = | 26007 | เหลือเศษ 0 |
| 26007 ÷ 3 | = | 8669 | เหลือเศษ 0 |
| 26007 ÷ 8669 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 26007 ÷ 26007 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26007
| 1 x 26007 | = | 26007 |
| 3 x 8669 | = | 26007 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26007
1 + 3 + 8669 + 26007 = 34680
▶ ตัวประกอบของ 26007 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 8669
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26007 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26007 = 3 x 8669
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26007 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26007 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26007 มา 1 คู่ เช่น 3 x 8669
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26007
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26007
- 26007
- 3
- 8669
ดังนั้น 26007 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26007 =
3 x 8669
2. การแยกตัวประกอบของ 26007 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26007 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26007 นั้นก็คือ 3, 8669 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26007
3)260078669)86691ดังนั้น 26007 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26007 = 3 x 8669วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26007
1แยกตัวประกอบของ 26007 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 866912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 8669 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26007 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26007 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26007 นั้นก็คือ 3, 8669 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26007
3
)26007
8669
)8669
1
ดังนั้น 26007 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26007 = 3 x 8669
1แยกตัวประกอบของ 26007 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 86691
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 8669 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26007 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26007 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
