ตัวประกอบของ 25534 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25534
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25534 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25534 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 25534 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25534 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25534 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 17, 34, 751, 1502, 12767, 25534
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25534 ÷ 1 | = | 25534 | เหลือเศษ 0 |
25534 ÷ 2 | = | 12767 | เหลือเศษ 0 |
25534 ÷ 17 | = | 1502 | เหลือเศษ 0 |
25534 ÷ 34 | = | 751 | เหลือเศษ 0 |
25534 ÷ 751 | = | 34 | เหลือเศษ 0 |
25534 ÷ 1502 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
25534 ÷ 12767 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
25534 ÷ 25534 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25534
1 x 25534 | = | 25534 |
2 x 12767 | = | 25534 |
17 x 1502 | = | 25534 |
34 x 751 | = | 25534 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25534
1 + 2 + 17 + 34 + 751 + 1502 + 12767 + 25534 = 40608
▶ ตัวประกอบของ 25534 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 17, 751
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25534 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25534 = 2 x 17 x 751
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25534 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25534 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25534 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12767
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25534
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25534 แบบที่หนึ่ง
- 25534
- 34
- 2
- 17
- 751
- 34
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25534 แบบที่สอง
- 25534
- 2
- 12767
- 17
- 751
ดังนั้น 25534 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25534 =
2 x 17 x 751
2. การแยกตัวประกอบของ 25534 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25534 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25534 นั้นก็คือ 2, 17, 751 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25534
2)2553417)12767751)7511ดังนั้น 25534 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25534 = 2 x 17 x 751วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25534
1แยกตัวประกอบของ 25534 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 171 x 75112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 751 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25534 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25534 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25534 นั้นก็คือ 2, 17, 751 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25534
2
)25534
17
)12767
751
)751
1
ดังนั้น 25534 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25534 = 2 x 17 x 751
1แยกตัวประกอบของ 25534 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 171 x 7511
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 751 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25534 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25534 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇