ตัวประกอบของ 25157 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25157
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25157 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25157 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 25157 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25157 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25157 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 11, 2287, 25157
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 25157 ÷ 1 | = | 25157 | เหลือเศษ 0 |
| 25157 ÷ 11 | = | 2287 | เหลือเศษ 0 |
| 25157 ÷ 2287 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
| 25157 ÷ 25157 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25157
| 1 x 25157 | = | 25157 |
| 11 x 2287 | = | 25157 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25157
1 + 11 + 2287 + 25157 = 27456
▶ ตัวประกอบของ 25157 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
11, 2287
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25157 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25157 = 11 x 2287
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25157 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25157 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25157 มา 1 คู่ เช่น 11 x 2287
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25157
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25157
- 25157
- 11
- 2287
ดังนั้น 25157 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25157 =
11 x 2287
2. การแยกตัวประกอบของ 25157 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25157 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25157 นั้นก็คือ 11, 2287 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25157
11)251572287)22871ดังนั้น 25157 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25157 = 11 x 2287วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25157
1แยกตัวประกอบของ 25157 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 111 x 228712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2287 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25157 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25157 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25157 นั้นก็คือ 11, 2287 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25157
11
)25157
2287
)2287
1
ดังนั้น 25157 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25157 = 11 x 2287
1แยกตัวประกอบของ 25157 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 111 x 22871
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2287 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25157 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25157 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇