ตัวประกอบของ 13022 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 13022
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 13022 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 13022 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 13022 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 13022 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 13022 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 17, 34, 383, 766, 6511, 13022
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 13022 ÷ 1 | = | 13022 | เหลือเศษ 0 |
| 13022 ÷ 2 | = | 6511 | เหลือเศษ 0 |
| 13022 ÷ 17 | = | 766 | เหลือเศษ 0 |
| 13022 ÷ 34 | = | 383 | เหลือเศษ 0 |
| 13022 ÷ 383 | = | 34 | เหลือเศษ 0 |
| 13022 ÷ 766 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
| 13022 ÷ 6511 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 13022 ÷ 13022 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 13022
| 1 x 13022 | = | 13022 |
| 2 x 6511 | = | 13022 |
| 17 x 766 | = | 13022 |
| 34 x 383 | = | 13022 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 13022
1 + 2 + 17 + 34 + 383 + 766 + 6511 + 13022 = 20736
▶ ตัวประกอบของ 13022 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 17, 383
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 13022 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
13022 = 2 x 17 x 383
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 13022 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 13022 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 13022 มา 1 คู่ เช่น 2 x 6511
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 13022
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 13022 แบบที่หนึ่ง
- 13022
- 34
- 2
- 17
- 383
- 34
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 13022 แบบที่สอง
- 13022
- 2
- 6511
- 17
- 383
ดังนั้น 13022 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
13022 =
2 x 17 x 383
2. การแยกตัวประกอบของ 13022 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 13022 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 13022 นั้นก็คือ 2, 17, 383 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 13022
2)1302217)6511383)3831ดังนั้น 13022 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้13022 = 2 x 17 x 383วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 13022
1แยกตัวประกอบของ 13022 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 171 x 38312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 383 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 13022 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 13022 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 13022 นั้นก็คือ 2, 17, 383 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 13022
2
)13022
17
)6511
383
)383
1
ดังนั้น 13022 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
13022 = 2 x 17 x 383
1แยกตัวประกอบของ 13022 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 171 x 3831
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 383 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 13022 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 13022 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇