ตัวประกอบของ 11026 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 11026
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 11026 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 11026 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 11026 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 11026 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 11026 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 37, 74, 149, 298, 5513, 11026
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 11026 ÷ 1 | = | 11026 | เหลือเศษ 0 |
| 11026 ÷ 2 | = | 5513 | เหลือเศษ 0 |
| 11026 ÷ 37 | = | 298 | เหลือเศษ 0 |
| 11026 ÷ 74 | = | 149 | เหลือเศษ 0 |
| 11026 ÷ 149 | = | 74 | เหลือเศษ 0 |
| 11026 ÷ 298 | = | 37 | เหลือเศษ 0 |
| 11026 ÷ 5513 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 11026 ÷ 11026 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 11026
| 1 x 11026 | = | 11026 |
| 2 x 5513 | = | 11026 |
| 37 x 298 | = | 11026 |
| 74 x 149 | = | 11026 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 11026
1 + 2 + 37 + 74 + 149 + 298 + 5513 + 11026 = 17100
▶ ตัวประกอบของ 11026 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 37, 149
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 11026 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11026 = 2 x 37 x 149
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 11026 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 11026 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 11026 มา 1 คู่ เช่น 2 x 5513
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11026
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 11026 แบบที่หนึ่ง
- 11026
- 74
- 2
- 37
- 149
- 74
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 11026 แบบที่สอง
- 11026
- 2
- 5513
- 37
- 149
ดังนั้น 11026 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11026 =
2 x 37 x 149
2. การแยกตัวประกอบของ 11026 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 11026 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 11026 นั้นก็คือ 2, 37, 149 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11026
2)1102637)5513149)1491ดังนั้น 11026 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้11026 = 2 x 37 x 149วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 11026
1แยกตัวประกอบของ 11026 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 371 x 14912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 149 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 11026 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 11026 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 11026 นั้นก็คือ 2, 37, 149 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11026
2
)11026
37
)5513
149
)149
1
ดังนั้น 11026 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11026 = 2 x 37 x 149
1แยกตัวประกอบของ 11026 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 371 x 1491
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 149 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 11026 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 11026 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇