ตัวประกอบของ 10526 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 10526
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 10526 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 10526 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 10526 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 10526 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 10526 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 19, 38, 277, 554, 5263, 10526
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
10526 ÷ 1 | = | 10526 | เหลือเศษ 0 |
10526 ÷ 2 | = | 5263 | เหลือเศษ 0 |
10526 ÷ 19 | = | 554 | เหลือเศษ 0 |
10526 ÷ 38 | = | 277 | เหลือเศษ 0 |
10526 ÷ 277 | = | 38 | เหลือเศษ 0 |
10526 ÷ 554 | = | 19 | เหลือเศษ 0 |
10526 ÷ 5263 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
10526 ÷ 10526 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 10526
1 x 10526 | = | 10526 |
2 x 5263 | = | 10526 |
19 x 554 | = | 10526 |
38 x 277 | = | 10526 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 10526
1 + 2 + 19 + 38 + 277 + 554 + 5263 + 10526 = 16680
▶ ตัวประกอบของ 10526 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 19, 277
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 10526 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10526 = 2 x 19 x 277
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 10526 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 10526 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 10526 มา 1 คู่ เช่น 2 x 5263
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10526
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10526 แบบที่หนึ่ง
- 10526
- 38
- 2
- 19
- 277
- 38
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10526 แบบที่สอง
- 10526
- 2
- 5263
- 19
- 277
ดังนั้น 10526 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10526 =
2 x 19 x 277
2. การแยกตัวประกอบของ 10526 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 10526 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 10526 นั้นก็คือ 2, 19, 277 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10526
2)1052619)5263277)2771ดังนั้น 10526 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้10526 = 2 x 19 x 277วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 10526
1แยกตัวประกอบของ 10526 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 191 x 27712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 277 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 10526 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 10526 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 10526 นั้นก็คือ 2, 19, 277 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10526
2
)10526
19
)5263
277
)277
1
ดังนั้น 10526 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10526 = 2 x 19 x 277
1แยกตัวประกอบของ 10526 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 191 x 2771
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 277 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 10526 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 10526 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇