ตัวประกอบของ 10322 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 10322
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 10322 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 10322 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 10322 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 10322 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 10322 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 13, 26, 397, 794, 5161, 10322
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
10322 ÷ 1 | = | 10322 | เหลือเศษ 0 |
10322 ÷ 2 | = | 5161 | เหลือเศษ 0 |
10322 ÷ 13 | = | 794 | เหลือเศษ 0 |
10322 ÷ 26 | = | 397 | เหลือเศษ 0 |
10322 ÷ 397 | = | 26 | เหลือเศษ 0 |
10322 ÷ 794 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
10322 ÷ 5161 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
10322 ÷ 10322 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 10322
1 x 10322 | = | 10322 |
2 x 5161 | = | 10322 |
13 x 794 | = | 10322 |
26 x 397 | = | 10322 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 10322
1 + 2 + 13 + 26 + 397 + 794 + 5161 + 10322 = 16716
▶ ตัวประกอบของ 10322 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 13, 397
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 10322 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10322 = 2 x 13 x 397
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 10322 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 10322 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 10322 มา 1 คู่ เช่น 2 x 5161
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10322
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10322 แบบที่หนึ่ง
- 10322
- 26
- 2
- 13
- 397
- 26
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10322 แบบที่สอง
- 10322
- 2
- 5161
- 13
- 397
ดังนั้น 10322 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10322 =
2 x 13 x 397
2. การแยกตัวประกอบของ 10322 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 10322 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 10322 นั้นก็คือ 2, 13, 397 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10322
2)1032213)5161397)3971ดังนั้น 10322 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้10322 = 2 x 13 x 397วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 10322
1แยกตัวประกอบของ 10322 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 131 x 39712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 397 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 10322 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 10322 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 10322 นั้นก็คือ 2, 13, 397 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10322
2
)10322
13
)5161
397
)397
1
ดังนั้น 10322 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10322 = 2 x 13 x 397
1แยกตัวประกอบของ 10322 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 131 x 3971
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 397 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 10322 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 10322 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇