ตัวประกอบของ 10170 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 10170
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 10170 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 10170 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 10170 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 10170 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 10170 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 3, 5, 6, 9, 10, 15, 18, 30, 45, 90, 113, 226, 339, 565, 678, 1017, 1130, 1695, 2034, 3390, 5085, 10170
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 10170 ÷ 1 | = | 10170 | เหลือเศษ 0 |
| 10170 ÷ 2 | = | 5085 | เหลือเศษ 0 |
| 10170 ÷ 3 | = | 3390 | เหลือเศษ 0 |
| 10170 ÷ 5 | = | 2034 | เหลือเศษ 0 |
| 10170 ÷ 6 | = | 1695 | เหลือเศษ 0 |
| 10170 ÷ 9 | = | 1130 | เหลือเศษ 0 |
| 10170 ÷ 10 | = | 1017 | เหลือเศษ 0 |
| 10170 ÷ 15 | = | 678 | เหลือเศษ 0 |
| 10170 ÷ 18 | = | 565 | เหลือเศษ 0 |
| 10170 ÷ 30 | = | 339 | เหลือเศษ 0 |
| 10170 ÷ 45 | = | 226 | เหลือเศษ 0 |
| 10170 ÷ 90 | = | 113 | เหลือเศษ 0 |
| 10170 ÷ 113 | = | 90 | เหลือเศษ 0 |
| 10170 ÷ 226 | = | 45 | เหลือเศษ 0 |
| 10170 ÷ 339 | = | 30 | เหลือเศษ 0 |
| 10170 ÷ 565 | = | 18 | เหลือเศษ 0 |
| 10170 ÷ 678 | = | 15 | เหลือเศษ 0 |
| 10170 ÷ 1017 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
| 10170 ÷ 1130 | = | 9 | เหลือเศษ 0 |
| 10170 ÷ 1695 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
| 10170 ÷ 2034 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 10170 ÷ 3390 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 10170 ÷ 5085 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 10170 ÷ 10170 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 10170
| 1 x 10170 | = | 10170 |
| 2 x 5085 | = | 10170 |
| 3 x 3390 | = | 10170 |
| 5 x 2034 | = | 10170 |
| 6 x 1695 | = | 10170 |
| 9 x 1130 | = | 10170 |
| 10 x 1017 | = | 10170 |
| 15 x 678 | = | 10170 |
| 18 x 565 | = | 10170 |
| 30 x 339 | = | 10170 |
| 45 x 226 | = | 10170 |
| 90 x 113 | = | 10170 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 10170
1 + 2 + 3 + 5 + 6 + 9 + 10 + 15 + 18 + 30 + 45 + 90 + 113 + 226 + 339 + 565 + 678 + 1017 + 1130 + 1695 + 2034 + 3390 + 5085 + 10170 = 26676
▶ ตัวประกอบของ 10170 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 5, 113
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 10170 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10170 = 2 x 3 x 3 x 5 x 113
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 10170 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
10170 = 2 x 32 x 5 x 113
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 10170 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
10170 = 2 x 32 x 5 x 113
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 10170 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 10170 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 10170 มา 1 คู่ เช่น 2 x 5085
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10170
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10170 แบบที่หนึ่ง
- 10170
- 90
- 9
- 3
- 3
- 10
- 2
- 5
- 9
- 113
- 90
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10170 แบบที่สอง
- 10170
- 2
- 5085
- 3
- 1695
- 3
- 565
- 5
- 113
ดังนั้น 10170 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10170 =
2 x 3 x 3 x 5 x 113
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
10170 =
2 x 32 x 5 x 113 หรือ 21 x 32 x 51 x 1131
2. การแยกตัวประกอบของ 10170 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 10170 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 10170 นั้นก็คือ 2, 3, 5, 113 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10170
2)101703)50853)16955)565113)1131ดังนั้น 10170 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้10170 = 2 x 3 x 3 x 5 x 113หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง10170 = 2 x 32 x 5 x 113 หรือ 21 x 32 x 51 x 1131วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 10170
1แยกตัวประกอบของ 10170 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 32 x 51 x 11312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 113 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 x 2 = 24✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 10170 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 10170 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 10170 นั้นก็คือ 2, 3, 5, 113 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10170
2
)10170
3
)5085
3
)1695
5
)565
113
)113
1
ดังนั้น 10170 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10170 = 2 x 3 x 3 x 5 x 113
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
10170 = 2 x 32 x 5 x 113 หรือ 21 x 32 x 51 x 1131
1แยกตัวประกอบของ 10170 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 32 x 51 x 1131
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 113 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 x 2 = 24✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 10170 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 10170 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇