โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 10136 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 10136

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 10136 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 10136 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 7, 8, 14, 28, 56, 181, 362, 724, 1267, 1448, 2534, 5068, 10136
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
10136 ÷ 1=10136เหลือเศษ 0
10136 ÷ 2=5068เหลือเศษ 0
10136 ÷ 4=2534เหลือเศษ 0
10136 ÷ 7=1448เหลือเศษ 0
10136 ÷ 8=1267เหลือเศษ 0
10136 ÷ 14=724เหลือเศษ 0
10136 ÷ 28=362เหลือเศษ 0
10136 ÷ 56=181เหลือเศษ 0
10136 ÷ 181=56เหลือเศษ 0
10136 ÷ 362=28เหลือเศษ 0
10136 ÷ 724=14เหลือเศษ 0
10136 ÷ 1267=8เหลือเศษ 0
10136 ÷ 1448=7เหลือเศษ 0
10136 ÷ 2534=4เหลือเศษ 0
10136 ÷ 5068=2เหลือเศษ 0
10136 ÷ 10136=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 10136
1 x 10136
2 x 5068
4 x 2534
7 x 1448
8 x 1267
14 x 724
28 x 362
56 x 181
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 10136
1 + 2 + 4 + 7 + 8 + 14 + 28 + 56 + 181 + 362 + 724 + 1267 + 1448 + 2534 + 5068 + 10136 = 21840
ตัวประกอบของ 10136 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 181
การแยกตัวประกอบคืออะไร

10136 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

10136 = 2 x 2 x 2 x 7 x 181
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 10136 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
10136 = 23 x 7 x 181
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 10136 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 10136 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 10136 มา 1 คู่ เช่น 2 x 5068
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10136
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10136 แบบที่หนึ่ง
  • 10136
    • 56
      • 7
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
    • 181

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 10136 แบบที่สอง
  • 10136
    • 2
    • 5068
      • 2
      • 2534
        • 2
        • 1267
          • 7
          • 181
ดังนั้น 10136 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10136 = 2 x 2 x 2 x 7 x 181
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
10136 = 23 x 7 x 181 หรือ 23 x 71 x 1811

2. การแยกตัวประกอบของ 10136 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 10136 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 10136 นั้นก็คือ 2, 7, 181 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 10136

2
)10136
2
)5068
2
)2534
7
)1267
181
)181
1
ดังนั้น 10136 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
10136 = 2 x 2 x 2 x 7 x 181
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
10136 = 23 x 7 x 181 หรือ 23 x 71 x 1811

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 10136

1แยกตัวประกอบของ 10136 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 71 x 1811
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 181 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 10136 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 10136 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇