ตัวประกอบของ 96362 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 96362
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 96362 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 96362 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 96362 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 96362 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 96362 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 7, 14, 6883, 13766, 48181, 96362
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 96362 ÷ 1 | = | 96362 | เหลือเศษ 0 |
| 96362 ÷ 2 | = | 48181 | เหลือเศษ 0 |
| 96362 ÷ 7 | = | 13766 | เหลือเศษ 0 |
| 96362 ÷ 14 | = | 6883 | เหลือเศษ 0 |
| 96362 ÷ 6883 | = | 14 | เหลือเศษ 0 |
| 96362 ÷ 13766 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
| 96362 ÷ 48181 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 96362 ÷ 96362 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 96362
| 1 x 96362 | = | 96362 |
| 2 x 48181 | = | 96362 |
| 7 x 13766 | = | 96362 |
| 14 x 6883 | = | 96362 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 96362
1 + 2 + 7 + 14 + 6883 + 13766 + 48181 + 96362 = 165216
▶ ตัวประกอบของ 96362 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 6883
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 96362 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
96362 = 2 x 7 x 6883
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 96362 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 96362 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 96362 มา 1 คู่ เช่น 2 x 48181
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 96362
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 96362 แบบที่หนึ่ง
- 96362
- 14
- 2
- 7
- 6883
- 14
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 96362 แบบที่สอง
- 96362
- 2
- 48181
- 7
- 6883
ดังนั้น 96362 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
96362 =
2 x 7 x 6883
2. การแยกตัวประกอบของ 96362 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 96362 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 96362 นั้นก็คือ 2, 7, 6883 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 96362
2)963627)481816883)68831ดังนั้น 96362 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้96362 = 2 x 7 x 6883วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 96362
1แยกตัวประกอบของ 96362 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 688312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 6883 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 96362 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 96362 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 96362 นั้นก็คือ 2, 7, 6883 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 96362
2
)96362
7
)48181
6883
)6883
1
ดังนั้น 96362 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
96362 = 2 x 7 x 6883
1แยกตัวประกอบของ 96362 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 68831
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 6883 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 96362 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 96362 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇