ตัวประกอบของ 96256 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 96256
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 96256 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 96256 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 96256 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 96256 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 96256 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 16, 32, 47, 64, 94, 128, 188, 256, 376, 512, 752, 1024, 1504, 2048, 3008, 6016, 12032, 24064, 48128, 96256
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 96256 ÷ 1 | = | 96256 | เหลือเศษ 0 |
| 96256 ÷ 2 | = | 48128 | เหลือเศษ 0 |
| 96256 ÷ 4 | = | 24064 | เหลือเศษ 0 |
| 96256 ÷ 8 | = | 12032 | เหลือเศษ 0 |
| 96256 ÷ 16 | = | 6016 | เหลือเศษ 0 |
| 96256 ÷ 32 | = | 3008 | เหลือเศษ 0 |
| 96256 ÷ 47 | = | 2048 | เหลือเศษ 0 |
| 96256 ÷ 64 | = | 1504 | เหลือเศษ 0 |
| 96256 ÷ 94 | = | 1024 | เหลือเศษ 0 |
| 96256 ÷ 128 | = | 752 | เหลือเศษ 0 |
| 96256 ÷ 188 | = | 512 | เหลือเศษ 0 |
| 96256 ÷ 256 | = | 376 | เหลือเศษ 0 |
| 96256 ÷ 376 | = | 256 | เหลือเศษ 0 |
| 96256 ÷ 512 | = | 188 | เหลือเศษ 0 |
| 96256 ÷ 752 | = | 128 | เหลือเศษ 0 |
| 96256 ÷ 1024 | = | 94 | เหลือเศษ 0 |
| 96256 ÷ 1504 | = | 64 | เหลือเศษ 0 |
| 96256 ÷ 2048 | = | 47 | เหลือเศษ 0 |
| 96256 ÷ 3008 | = | 32 | เหลือเศษ 0 |
| 96256 ÷ 6016 | = | 16 | เหลือเศษ 0 |
| 96256 ÷ 12032 | = | 8 | เหลือเศษ 0 |
| 96256 ÷ 24064 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
| 96256 ÷ 48128 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 96256 ÷ 96256 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 96256
| 1 x 96256 | = | 96256 |
| 2 x 48128 | = | 96256 |
| 4 x 24064 | = | 96256 |
| 8 x 12032 | = | 96256 |
| 16 x 6016 | = | 96256 |
| 32 x 3008 | = | 96256 |
| 47 x 2048 | = | 96256 |
| 64 x 1504 | = | 96256 |
| 94 x 1024 | = | 96256 |
| 128 x 752 | = | 96256 |
| 188 x 512 | = | 96256 |
| 256 x 376 | = | 96256 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 96256
1 + 2 + 4 + 8 + 16 + 32 + 47 + 64 + 94 + 128 + 188 + 256 + 376 + 512 + 752 + 1024 + 1504 + 2048 + 3008 + 6016 + 12032 + 24064 + 48128 + 96256 = 196560
▶ ตัวประกอบของ 96256 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 47
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 96256 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
96256 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 47
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 96256 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
96256 = 211 x 47
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 96256 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
96256 = 211 x 47
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 96256 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 96256 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 96256 มา 1 คู่ เช่น 2 x 48128
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 96256
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 96256 แบบที่หนึ่ง
- 96256
- 256
- 16
- 4
- 2
- 2
- 4
- 2
- 2
- 4
- 16
- 4
- 2
- 2
- 4
- 2
- 2
- 4
- 16
- 376
- 8
- 2
- 4
- 2
- 2
- 47
- 8
- 256
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 96256 แบบที่สอง
- 96256
- 2
- 48128
- 2
- 24064
- 2
- 12032
- 2
- 6016
- 2
- 3008
- 2
- 1504
- 2
- 752
- 2
- 376
- 2
- 188
- 2
- 94
- 2
- 47
ดังนั้น 96256 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
96256 =
2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 47
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
96256 =
211 x 47 หรือ 211 x 471
2. การแยกตัวประกอบของ 96256 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 96256 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 96256 นั้นก็คือ 2, 47 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 96256
2)962562)481282)240642)120322)60162)30082)15042)7522)3762)1882)9447)471ดังนั้น 96256 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้96256 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 47หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง96256 = 211 x 47 หรือ 211 x 471วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 96256
1แยกตัวประกอบของ 96256 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 211 x 4712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 11 ให้เอา 11 + 1 = 12
- 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 12 x 2 = 24✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 96256 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 96256 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 96256 นั้นก็คือ 2, 47 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 96256
2
)96256
2
)48128
2
)24064
2
)12032
2
)6016
2
)3008
2
)1504
2
)752
2
)376
2
)188
2
)94
47
)47
1
ดังนั้น 96256 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
96256 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 47
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
96256 = 211 x 47 หรือ 211 x 471
1แยกตัวประกอบของ 96256 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 211 x 471
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 11 ให้เอา 11 + 1 = 12
- 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 12 x 2 = 24✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 96256 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 96256 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇