ตัวประกอบของ 9142 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 9142
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 9142 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 9142 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 9142 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 9142 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 9142 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 7, 14, 653, 1306, 4571, 9142
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
9142 ÷ 1 | = | 9142 | เหลือเศษ 0 |
9142 ÷ 2 | = | 4571 | เหลือเศษ 0 |
9142 ÷ 7 | = | 1306 | เหลือเศษ 0 |
9142 ÷ 14 | = | 653 | เหลือเศษ 0 |
9142 ÷ 653 | = | 14 | เหลือเศษ 0 |
9142 ÷ 1306 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
9142 ÷ 4571 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
9142 ÷ 9142 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 9142
1 x 9142 | = | 9142 |
2 x 4571 | = | 9142 |
7 x 1306 | = | 9142 |
14 x 653 | = | 9142 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 9142
1 + 2 + 7 + 14 + 653 + 1306 + 4571 + 9142 = 15696
▶ ตัวประกอบของ 9142 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 653
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 9142 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9142 = 2 x 7 x 653
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 9142 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 9142 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 9142 มา 1 คู่ เช่น 2 x 4571
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9142
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 9142 แบบที่หนึ่ง
- 9142
- 14
- 2
- 7
- 653
- 14
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 9142 แบบที่สอง
- 9142
- 2
- 4571
- 7
- 653
ดังนั้น 9142 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9142 =
2 x 7 x 653
2. การแยกตัวประกอบของ 9142 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 9142 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 9142 นั้นก็คือ 2, 7, 653 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9142
2)91427)4571653)6531ดังนั้น 9142 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้9142 = 2 x 7 x 653วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 9142
1แยกตัวประกอบของ 9142 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 65312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 653 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 9142 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 9142 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 9142 นั้นก็คือ 2, 7, 653 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9142
2
)9142
7
)4571
653
)653
1
ดังนั้น 9142 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9142 = 2 x 7 x 653
1แยกตัวประกอบของ 9142 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 6531
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 653 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 9142 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 9142 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇