ตัวประกอบของ 9146 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 9146
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 9146 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 9146 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 9146 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 9146 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 9146 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 17, 34, 269, 538, 4573, 9146
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
9146 ÷ 1 | = | 9146 | เหลือเศษ 0 |
9146 ÷ 2 | = | 4573 | เหลือเศษ 0 |
9146 ÷ 17 | = | 538 | เหลือเศษ 0 |
9146 ÷ 34 | = | 269 | เหลือเศษ 0 |
9146 ÷ 269 | = | 34 | เหลือเศษ 0 |
9146 ÷ 538 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
9146 ÷ 4573 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
9146 ÷ 9146 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 9146
1 x 9146 | = | 9146 |
2 x 4573 | = | 9146 |
17 x 538 | = | 9146 |
34 x 269 | = | 9146 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 9146
1 + 2 + 17 + 34 + 269 + 538 + 4573 + 9146 = 14580
▶ ตัวประกอบของ 9146 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 17, 269
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 9146 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9146 = 2 x 17 x 269
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 9146 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 9146 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 9146 มา 1 คู่ เช่น 2 x 4573
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9146
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 9146 แบบที่หนึ่ง
- 9146
- 34
- 2
- 17
- 269
- 34
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 9146 แบบที่สอง
- 9146
- 2
- 4573
- 17
- 269
ดังนั้น 9146 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9146 =
2 x 17 x 269
2. การแยกตัวประกอบของ 9146 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 9146 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 9146 นั้นก็คือ 2, 17, 269 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9146
2)914617)4573269)2691ดังนั้น 9146 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้9146 = 2 x 17 x 269วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 9146
1แยกตัวประกอบของ 9146 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 171 x 26912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 269 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 9146 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 9146 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 9146 นั้นก็คือ 2, 17, 269 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9146
2
)9146
17
)4573
269
)269
1
ดังนั้น 9146 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9146 = 2 x 17 x 269
1แยกตัวประกอบของ 9146 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 171 x 2691
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 269 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 9146 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 9146 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇