ตัวประกอบของ 8555 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 8555
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 8555 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 8555 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 8555 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 8555 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 8555 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 5, 29, 59, 145, 295, 1711, 8555
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
8555 ÷ 1 | = | 8555 | เหลือเศษ 0 |
8555 ÷ 5 | = | 1711 | เหลือเศษ 0 |
8555 ÷ 29 | = | 295 | เหลือเศษ 0 |
8555 ÷ 59 | = | 145 | เหลือเศษ 0 |
8555 ÷ 145 | = | 59 | เหลือเศษ 0 |
8555 ÷ 295 | = | 29 | เหลือเศษ 0 |
8555 ÷ 1711 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
8555 ÷ 8555 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 8555
1 x 8555 | = | 8555 |
5 x 1711 | = | 8555 |
29 x 295 | = | 8555 |
59 x 145 | = | 8555 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 8555
1 + 5 + 29 + 59 + 145 + 295 + 1711 + 8555 = 10800
▶ ตัวประกอบของ 8555 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
5, 29, 59
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 8555 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8555 = 5 x 29 x 59
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 8555 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 8555 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 8555 มา 1 คู่ เช่น 5 x 1711
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8555
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8555 แบบที่หนึ่ง
- 8555
- 59
- 145
- 5
- 29
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8555 แบบที่สอง
- 8555
- 5
- 1711
- 29
- 59
ดังนั้น 8555 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8555 =
5 x 29 x 59
2. การแยกตัวประกอบของ 8555 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 8555 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8555 นั้นก็คือ 5, 29, 59 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8555
5)855529)171159)591ดังนั้น 8555 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้8555 = 5 x 29 x 59วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 8555
1แยกตัวประกอบของ 8555 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 291 x 5912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 59 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8555 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 8555 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8555 นั้นก็คือ 5, 29, 59 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8555
5
)8555
29
)1711
59
)59
1
ดังนั้น 8555 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8555 = 5 x 29 x 59
1แยกตัวประกอบของ 8555 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 291 x 591
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 59 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8555 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 8555 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇