ตัวประกอบของ 69477 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 69477
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 69477 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 69477 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 69477 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 69477 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 69477 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 3, 23159, 69477
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 69477 ÷ 1 | = | 69477 | เหลือเศษ 0 |
| 69477 ÷ 3 | = | 23159 | เหลือเศษ 0 |
| 69477 ÷ 23159 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 69477 ÷ 69477 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 69477
| 1 x 69477 | = | 69477 |
| 3 x 23159 | = | 69477 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 69477
1 + 3 + 23159 + 69477 = 92640
▶ ตัวประกอบของ 69477 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 23159
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 69477 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
69477 = 3 x 23159
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 69477 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 69477 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 69477 มา 1 คู่ เช่น 3 x 23159
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 69477
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 69477
- 69477
- 3
- 23159
ดังนั้น 69477 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
69477 =
3 x 23159
2. การแยกตัวประกอบของ 69477 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 69477 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 69477 นั้นก็คือ 3, 23159 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 69477
3)6947723159)231591ดังนั้น 69477 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้69477 = 3 x 23159วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 69477
1แยกตัวประกอบของ 69477 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 2315912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23159 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 69477 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 69477 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 69477 นั้นก็คือ 3, 23159 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 69477
3
)69477
23159
)23159
1
ดังนั้น 69477 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
69477 = 3 x 23159
1แยกตัวประกอบของ 69477 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 231591
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23159 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 69477 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 69477 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇