โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 69250 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 69250

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 69250 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 69250 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 5, 10, 25, 50, 125, 250, 277, 554, 1385, 2770, 6925, 13850, 34625, 69250
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
69250 ÷ 1=69250เหลือเศษ 0
69250 ÷ 2=34625เหลือเศษ 0
69250 ÷ 5=13850เหลือเศษ 0
69250 ÷ 10=6925เหลือเศษ 0
69250 ÷ 25=2770เหลือเศษ 0
69250 ÷ 50=1385เหลือเศษ 0
69250 ÷ 125=554เหลือเศษ 0
69250 ÷ 250=277เหลือเศษ 0
69250 ÷ 277=250เหลือเศษ 0
69250 ÷ 554=125เหลือเศษ 0
69250 ÷ 1385=50เหลือเศษ 0
69250 ÷ 2770=25เหลือเศษ 0
69250 ÷ 6925=10เหลือเศษ 0
69250 ÷ 13850=5เหลือเศษ 0
69250 ÷ 34625=2เหลือเศษ 0
69250 ÷ 69250=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 69250
1 x 69250
2 x 34625
5 x 13850
10 x 6925
25 x 2770
50 x 1385
125 x 554
250 x 277
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 69250
1 + 2 + 5 + 10 + 25 + 50 + 125 + 250 + 277 + 554 + 1385 + 2770 + 6925 + 13850 + 34625 + 69250 = 130104
ตัวประกอบของ 69250 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 277
การแยกตัวประกอบคืออะไร

69250 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

69250 = 2 x 5 x 5 x 5 x 277
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 69250 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
69250 = 2 x 53 x 277
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 69250 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 69250 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 69250 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34625
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 69250
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 69250 แบบที่หนึ่ง
  • 69250
    • 250
      • 10
        • 2
        • 5
      • 25
        • 5
        • 5
    • 277

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 69250 แบบที่สอง
  • 69250
    • 2
    • 34625
      • 5
      • 6925
        • 5
        • 1385
          • 5
          • 277
ดังนั้น 69250 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
69250 = 2 x 5 x 5 x 5 x 277
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
69250 = 2 x 53 x 277 หรือ 21 x 53 x 2771

2. การแยกตัวประกอบของ 69250 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 69250 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 69250 นั้นก็คือ 2, 5, 277 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 69250

2
)69250
5
)34625
5
)6925
5
)1385
277
)277
1
ดังนั้น 69250 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
69250 = 2 x 5 x 5 x 5 x 277
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
69250 = 2 x 53 x 277 หรือ 21 x 53 x 2771

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 69250

1แยกตัวประกอบของ 69250 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 53 x 2771
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 277 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 4 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 69250 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 69250 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇