ตัวประกอบของ 65747 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65747
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65747 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65747 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 65747 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65747 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65747 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 11, 43, 139, 473, 1529, 5977, 65747
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65747 ÷ 1 | = | 65747 | เหลือเศษ 0 |
65747 ÷ 11 | = | 5977 | เหลือเศษ 0 |
65747 ÷ 43 | = | 1529 | เหลือเศษ 0 |
65747 ÷ 139 | = | 473 | เหลือเศษ 0 |
65747 ÷ 473 | = | 139 | เหลือเศษ 0 |
65747 ÷ 1529 | = | 43 | เหลือเศษ 0 |
65747 ÷ 5977 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
65747 ÷ 65747 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65747
1 x 65747 | = | 65747 |
11 x 5977 | = | 65747 |
43 x 1529 | = | 65747 |
139 x 473 | = | 65747 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65747
1 + 11 + 43 + 139 + 473 + 1529 + 5977 + 65747 = 73920
▶ ตัวประกอบของ 65747 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
11, 43, 139
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65747 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65747 = 11 x 43 x 139
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65747 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65747 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65747 มา 1 คู่ เช่น 11 x 5977
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65747
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65747 แบบที่หนึ่ง
- 65747
- 139
- 473
- 11
- 43
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65747 แบบที่สอง
- 65747
- 11
- 5977
- 43
- 139
ดังนั้น 65747 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65747 =
11 x 43 x 139
2. การแยกตัวประกอบของ 65747 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65747 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65747 นั้นก็คือ 11, 43, 139 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65747
11)6574743)5977139)1391ดังนั้น 65747 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65747 = 11 x 43 x 139วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65747
1แยกตัวประกอบของ 65747 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 111 x 431 x 13912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 43 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 139 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65747 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65747 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65747 นั้นก็คือ 11, 43, 139 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65747
11
)65747
43
)5977
139
)139
1
ดังนั้น 65747 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65747 = 11 x 43 x 139
1แยกตัวประกอบของ 65747 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 111 x 431 x 1391
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 43 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 139 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65747 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65747 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇