ตัวประกอบของ 6530 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 6530
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 6530 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 6530 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 6530 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 6530 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 6530 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 5, 10, 653, 1306, 3265, 6530
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 6530 ÷ 1 | = | 6530 | เหลือเศษ 0 |
| 6530 ÷ 2 | = | 3265 | เหลือเศษ 0 |
| 6530 ÷ 5 | = | 1306 | เหลือเศษ 0 |
| 6530 ÷ 10 | = | 653 | เหลือเศษ 0 |
| 6530 ÷ 653 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
| 6530 ÷ 1306 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 6530 ÷ 3265 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 6530 ÷ 6530 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 6530
| 1 x 6530 | = | 6530 |
| 2 x 3265 | = | 6530 |
| 5 x 1306 | = | 6530 |
| 10 x 653 | = | 6530 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 6530
1 + 2 + 5 + 10 + 653 + 1306 + 3265 + 6530 = 11772
▶ ตัวประกอบของ 6530 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 653
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 6530 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6530 = 2 x 5 x 653
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 6530 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 6530 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 6530 มา 1 คู่ เช่น 2 x 3265
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6530
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6530 แบบที่หนึ่ง
- 6530
- 10
- 2
- 5
- 653
- 10
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6530 แบบที่สอง
- 6530
- 2
- 3265
- 5
- 653
ดังนั้น 6530 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6530 =
2 x 5 x 653
2. การแยกตัวประกอบของ 6530 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 6530 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6530 นั้นก็คือ 2, 5, 653 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6530
2)65305)3265653)6531ดังนั้น 6530 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้6530 = 2 x 5 x 653วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 6530
1แยกตัวประกอบของ 6530 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 51 x 65312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 653 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6530 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 6530 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6530 นั้นก็คือ 2, 5, 653 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6530
2
)6530
5
)3265
653
)653
1
ดังนั้น 6530 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6530 = 2 x 5 x 653
1แยกตัวประกอบของ 6530 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 51 x 6531
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 653 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6530 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 6530 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇