โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 6525 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 6525

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 6525 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 6525 มีทั้งหมด 18 ตัวคือ 1, 3, 5, 9, 15, 25, 29, 45, 75, 87, 145, 225, 261, 435, 725, 1305, 2175, 6525
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
6525 ÷ 1=6525เหลือเศษ 0
6525 ÷ 3=2175เหลือเศษ 0
6525 ÷ 5=1305เหลือเศษ 0
6525 ÷ 9=725เหลือเศษ 0
6525 ÷ 15=435เหลือเศษ 0
6525 ÷ 25=261เหลือเศษ 0
6525 ÷ 29=225เหลือเศษ 0
6525 ÷ 45=145เหลือเศษ 0
6525 ÷ 75=87เหลือเศษ 0
6525 ÷ 87=75เหลือเศษ 0
6525 ÷ 145=45เหลือเศษ 0
6525 ÷ 225=29เหลือเศษ 0
6525 ÷ 261=25เหลือเศษ 0
6525 ÷ 435=15เหลือเศษ 0
6525 ÷ 725=9เหลือเศษ 0
6525 ÷ 1305=5เหลือเศษ 0
6525 ÷ 2175=3เหลือเศษ 0
6525 ÷ 6525=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 6525
1 x 6525
3 x 2175
5 x 1305
9 x 725
15 x 435
25 x 261
29 x 225
45 x 145
75 x 87
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 6525
1 + 3 + 5 + 9 + 15 + 25 + 29 + 45 + 75 + 87 + 145 + 225 + 261 + 435 + 725 + 1305 + 2175 + 6525 = 12090
ตัวประกอบของ 6525 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 5, 29
การแยกตัวประกอบคืออะไร

6525 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

6525 = 3 x 3 x 5 x 5 x 29
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 6525 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
6525 = 32 x 52 x 29
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 6525 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 6525 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 6525 มา 1 คู่ เช่น 3 x 2175
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6525
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6525 แบบที่หนึ่ง
  • 6525
    • 75
      • 5
      • 15
        • 3
        • 5
    • 87
      • 3
      • 29

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6525 แบบที่สอง
  • 6525
    • 3
    • 2175
      • 3
      • 725
        • 5
        • 145
          • 5
          • 29
ดังนั้น 6525 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6525 = 3 x 3 x 5 x 5 x 29
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
6525 = 32 x 52 x 29 หรือ 32 x 52 x 291

2. การแยกตัวประกอบของ 6525 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 6525 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6525 นั้นก็คือ 3, 5, 29 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6525

3
)6525
3
)2175
5
)725
5
)145
29
)29
1
ดังนั้น 6525 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6525 = 3 x 3 x 5 x 5 x 29
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
6525 = 32 x 52 x 29 หรือ 32 x 52 x 291

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 6525

1แยกตัวประกอบของ 6525 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 52 x 291
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 3 x 2 = 18
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6525 มีทั้งหมด 18 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 6525 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇