ตัวประกอบของ 65297 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65297
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65297 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65297 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 65297 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65297 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65297 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 17, 23, 167, 391, 2839, 3841, 65297
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65297 ÷ 1 | = | 65297 | เหลือเศษ 0 |
65297 ÷ 17 | = | 3841 | เหลือเศษ 0 |
65297 ÷ 23 | = | 2839 | เหลือเศษ 0 |
65297 ÷ 167 | = | 391 | เหลือเศษ 0 |
65297 ÷ 391 | = | 167 | เหลือเศษ 0 |
65297 ÷ 2839 | = | 23 | เหลือเศษ 0 |
65297 ÷ 3841 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
65297 ÷ 65297 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65297
1 x 65297 | = | 65297 |
17 x 3841 | = | 65297 |
23 x 2839 | = | 65297 |
167 x 391 | = | 65297 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65297
1 + 17 + 23 + 167 + 391 + 2839 + 3841 + 65297 = 72576
▶ ตัวประกอบของ 65297 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
17, 23, 167
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65297 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65297 = 17 x 23 x 167
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65297 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65297 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65297 มา 1 คู่ เช่น 17 x 3841
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65297
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65297 แบบที่หนึ่ง
- 65297
- 167
- 391
- 17
- 23
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65297 แบบที่สอง
- 65297
- 17
- 3841
- 23
- 167
ดังนั้น 65297 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65297 =
17 x 23 x 167
2. การแยกตัวประกอบของ 65297 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65297 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65297 นั้นก็คือ 17, 23, 167 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65297
17)6529723)3841167)1671ดังนั้น 65297 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65297 = 17 x 23 x 167วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65297
1แยกตัวประกอบของ 65297 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 171 x 231 x 16712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 167 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65297 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65297 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65297 นั้นก็คือ 17, 23, 167 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65297
17
)65297
23
)3841
167
)167
1
ดังนั้น 65297 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65297 = 17 x 23 x 167
1แยกตัวประกอบของ 65297 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 171 x 231 x 1671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 167 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65297 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65297 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇