ตัวประกอบของ 65302 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65302
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65302 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65302 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 65302 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65302 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65302 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 103, 206, 317, 634, 32651, 65302
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 65302 ÷ 1 | = | 65302 | เหลือเศษ 0 |
| 65302 ÷ 2 | = | 32651 | เหลือเศษ 0 |
| 65302 ÷ 103 | = | 634 | เหลือเศษ 0 |
| 65302 ÷ 206 | = | 317 | เหลือเศษ 0 |
| 65302 ÷ 317 | = | 206 | เหลือเศษ 0 |
| 65302 ÷ 634 | = | 103 | เหลือเศษ 0 |
| 65302 ÷ 32651 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 65302 ÷ 65302 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65302
| 1 x 65302 | = | 65302 |
| 2 x 32651 | = | 65302 |
| 103 x 634 | = | 65302 |
| 206 x 317 | = | 65302 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65302
1 + 2 + 103 + 206 + 317 + 634 + 32651 + 65302 = 99216
▶ ตัวประกอบของ 65302 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 103, 317
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65302 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65302 = 2 x 103 x 317
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65302 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65302 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65302 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32651
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65302
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65302 แบบที่หนึ่ง
- 65302
- 206
- 2
- 103
- 317
- 206
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65302 แบบที่สอง
- 65302
- 2
- 32651
- 103
- 317
ดังนั้น 65302 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65302 =
2 x 103 x 317
2. การแยกตัวประกอบของ 65302 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65302 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65302 นั้นก็คือ 2, 103, 317 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65302
2)65302103)32651317)3171ดังนั้น 65302 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65302 = 2 x 103 x 317วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65302
1แยกตัวประกอบของ 65302 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 1031 x 31712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 103 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 317 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65302 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65302 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65302 นั้นก็คือ 2, 103, 317 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65302
2
)65302
103
)32651
317
)317
1
ดังนั้น 65302 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65302 = 2 x 103 x 317
1แยกตัวประกอบของ 65302 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 1031 x 3171
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 103 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 317 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65302 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65302 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇