โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 65032 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65032

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 65032 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 65032 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 11, 22, 44, 88, 739, 1478, 2956, 5912, 8129, 16258, 32516, 65032
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65032 ÷ 1=65032เหลือเศษ 0
65032 ÷ 2=32516เหลือเศษ 0
65032 ÷ 4=16258เหลือเศษ 0
65032 ÷ 8=8129เหลือเศษ 0
65032 ÷ 11=5912เหลือเศษ 0
65032 ÷ 22=2956เหลือเศษ 0
65032 ÷ 44=1478เหลือเศษ 0
65032 ÷ 88=739เหลือเศษ 0
65032 ÷ 739=88เหลือเศษ 0
65032 ÷ 1478=44เหลือเศษ 0
65032 ÷ 2956=22เหลือเศษ 0
65032 ÷ 5912=11เหลือเศษ 0
65032 ÷ 8129=8เหลือเศษ 0
65032 ÷ 16258=4เหลือเศษ 0
65032 ÷ 32516=2เหลือเศษ 0
65032 ÷ 65032=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65032
1 x 65032
2 x 32516
4 x 16258
8 x 8129
11 x 5912
22 x 2956
44 x 1478
88 x 739
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65032
1 + 2 + 4 + 8 + 11 + 22 + 44 + 88 + 739 + 1478 + 2956 + 5912 + 8129 + 16258 + 32516 + 65032 = 133200
ตัวประกอบของ 65032 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 11, 739
การแยกตัวประกอบคืออะไร

65032 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

65032 = 2 x 2 x 2 x 11 x 739
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65032 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65032 = 23 x 11 x 739
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 65032 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65032 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65032 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32516
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65032
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65032 แบบที่หนึ่ง
  • 65032
    • 88
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
      • 11
    • 739

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65032 แบบที่สอง
  • 65032
    • 2
    • 32516
      • 2
      • 16258
        • 2
        • 8129
          • 11
          • 739
ดังนั้น 65032 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65032 = 2 x 2 x 2 x 11 x 739
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65032 = 23 x 11 x 739 หรือ 23 x 111 x 7391

2. การแยกตัวประกอบของ 65032 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 65032 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65032 นั้นก็คือ 2, 11, 739 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65032

2
)65032
2
)32516
2
)16258
11
)8129
739
)739
1
ดังนั้น 65032 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65032 = 2 x 2 x 2 x 11 x 739
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65032 = 23 x 11 x 739 หรือ 23 x 111 x 7391

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65032

1แยกตัวประกอบของ 65032 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 111 x 7391
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 739 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65032 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65032 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇