โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 64875 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 64875

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 64875 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 64875 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 3, 5, 15, 25, 75, 125, 173, 375, 519, 865, 2595, 4325, 12975, 21625, 64875
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
64875 ÷ 1=64875เหลือเศษ 0
64875 ÷ 3=21625เหลือเศษ 0
64875 ÷ 5=12975เหลือเศษ 0
64875 ÷ 15=4325เหลือเศษ 0
64875 ÷ 25=2595เหลือเศษ 0
64875 ÷ 75=865เหลือเศษ 0
64875 ÷ 125=519เหลือเศษ 0
64875 ÷ 173=375เหลือเศษ 0
64875 ÷ 375=173เหลือเศษ 0
64875 ÷ 519=125เหลือเศษ 0
64875 ÷ 865=75เหลือเศษ 0
64875 ÷ 2595=25เหลือเศษ 0
64875 ÷ 4325=15เหลือเศษ 0
64875 ÷ 12975=5เหลือเศษ 0
64875 ÷ 21625=3เหลือเศษ 0
64875 ÷ 64875=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 64875
1 x 64875
3 x 21625
5 x 12975
15 x 4325
25 x 2595
75 x 865
125 x 519
173 x 375
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 64875
1 + 3 + 5 + 15 + 25 + 75 + 125 + 173 + 375 + 519 + 865 + 2595 + 4325 + 12975 + 21625 + 64875 = 108576
ตัวประกอบของ 64875 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 5, 173
การแยกตัวประกอบคืออะไร

64875 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

64875 = 3 x 5 x 5 x 5 x 173
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 64875 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
64875 = 3 x 53 x 173
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 64875 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 64875 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 64875 มา 1 คู่ เช่น 3 x 21625
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 64875
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 64875 แบบที่หนึ่ง
  • 64875
    • 173
    • 375
      • 15
        • 3
        • 5
      • 25
        • 5
        • 5

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 64875 แบบที่สอง
  • 64875
    • 3
    • 21625
      • 5
      • 4325
        • 5
        • 865
          • 5
          • 173
ดังนั้น 64875 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
64875 = 3 x 5 x 5 x 5 x 173
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
64875 = 3 x 53 x 173 หรือ 31 x 53 x 1731

2. การแยกตัวประกอบของ 64875 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 64875 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 64875 นั้นก็คือ 3, 5, 173 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 64875

3
)64875
5
)21625
5
)4325
5
)865
173
)173
1
ดังนั้น 64875 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
64875 = 3 x 5 x 5 x 5 x 173
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
64875 = 3 x 53 x 173 หรือ 31 x 53 x 1731

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 64875

1แยกตัวประกอบของ 64875 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 53 x 1731
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 173 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 4 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 64875 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 64875 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇