โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 5838 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5838

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 5838 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 5838 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 7, 14, 21, 42, 139, 278, 417, 834, 973, 1946, 2919, 5838
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5838 ÷ 1=5838เหลือเศษ 0
5838 ÷ 2=2919เหลือเศษ 0
5838 ÷ 3=1946เหลือเศษ 0
5838 ÷ 6=973เหลือเศษ 0
5838 ÷ 7=834เหลือเศษ 0
5838 ÷ 14=417เหลือเศษ 0
5838 ÷ 21=278เหลือเศษ 0
5838 ÷ 42=139เหลือเศษ 0
5838 ÷ 139=42เหลือเศษ 0
5838 ÷ 278=21เหลือเศษ 0
5838 ÷ 417=14เหลือเศษ 0
5838 ÷ 834=7เหลือเศษ 0
5838 ÷ 973=6เหลือเศษ 0
5838 ÷ 1946=3เหลือเศษ 0
5838 ÷ 2919=2เหลือเศษ 0
5838 ÷ 5838=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5838
1 x 5838
2 x 2919
3 x 1946
6 x 973
7 x 834
14 x 417
21 x 278
42 x 139
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5838
1 + 2 + 3 + 6 + 7 + 14 + 21 + 42 + 139 + 278 + 417 + 834 + 973 + 1946 + 2919 + 5838 = 13440
ตัวประกอบของ 5838 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 7, 139
การแยกตัวประกอบคืออะไร

5838 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

5838 = 2 x 3 x 7 x 139
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 5838 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5838 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5838 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2919
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5838
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5838 แบบที่หนึ่ง
  • 5838
    • 42
      • 6
        • 2
        • 3
      • 7
    • 139

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5838 แบบที่สอง
  • 5838
    • 2
    • 2919
      • 3
      • 973
        • 7
        • 139
ดังนั้น 5838 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5838 = 2 x 3 x 7 x 139

2. การแยกตัวประกอบของ 5838 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 5838 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5838 นั้นก็คือ 2, 3, 7, 139 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5838

2
)5838
3
)2919
7
)973
139
)139
1
ดังนั้น 5838 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5838 = 2 x 3 x 7 x 139

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5838

1แยกตัวประกอบของ 5838 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 71 x 1391
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 139 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5838 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5838 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇